7 หุ้น mai ราคาดิ่งนรก! ครึ่งปีแรกนักลงทุนขาดทุนยับเกิน 50%

7 หุ้น mai ราคาดิ่งนรก! ครึ่งปีแรกนักลงทุนขาดทุนยับเกิน 50% นำโดย ACAP,DNA,COMAN,AMA,QTC,ABM และ FSMART


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(mai) ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเทียบราคาหุ้นตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.60-29ก.ค.61 โดยช่วงดังกล่าวมีหุ้นปรับตัวลงตามทิศทางดัชนีตลาดขาลงชัดเจนโดยดัชนีตลาดหุ้น mai ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 22.91% จากยืนที่ระดับ 540.37 จุด (29 ธ.ค. 60) ลดลง 123.80 จุด มาอยู่ที่ระดับ 416.57 จุด (29 ก.ค.61)

ทั้งนี้หากสังเกตดัชนีเนื่องจากภาพรวมตลาดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่องโดยเห็นได้จากวันที่ 1ม.ค.-17ก.ค.1 นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิรวม 196,972 ล้านบาท ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับหุ้นกลุ่มหุ้น mai ที่ปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดโดยครั้งนี้ได้คัดเลือกหุ้นมานำเสนอ 7 ตัว โดยหุ้นดังกล่าวราคาร่วงหนักเกิน 50% อาทิ ACAP,DNA,COMAN,AMA,QTC,ABM แล ะ FSMART โดยหุ้นที่จะนำเสนอข้อมูลประกอบขอนำเสนอเพียง 5 อันดับแรกของตารางดังนี้

อันดับ 1 บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP  ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 60.64% โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากระดับ 14.10 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 5..55 บาท (29 ก.ค.61) คาดนักลงทุนขายทำกำไรหลังเข้าไปไล่ในช่วงเดือนก.พ.โดยบริษัทโชว์ผลงานปี 60 กำไรพุ่งกว่า 46% มาที่ 255.42 ล้านบาท จากปีก่อนกำไร 174.33 ล้านบาท ทำให้ราคาพุ่งแรง แต่ภายหลังบริษัทประกาศตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 กำไรลดฮวบ 40% เหลือ 44 ล้านบาท จากปีก่อน 74 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายพุ่ง ทำให้นักลงทุนผิดหวังและทยอยขายหุ้นออกมาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับภาวะตลาดฯไม่สดใสยิ่งทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงแรง

 

อันดับ 2 บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA  ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 57.14% โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากระดับ 0.91 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 0.39 บาท (29ก.ค.61) คาดนักลงทุนเทขายหุ้น เนื่องจากพื้นฐานบริษัทไม่โดยบริษัทมีผลขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2557 โดยผลการดำเนินงานปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 248.78 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 348.72 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะมีแผนธุรกิจออกมาในช่วงดังกล่าว โดยบริษัทลูก DNA ได้เซ็น MOU เพื่อพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์กับเหมืองขุด Bitcoin ในจีน โดยคาดเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/61 แต่ปัจจัยดังกล่าวก็ยังไมทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

 

อันดับ 3บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 55.83% โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากระดับ 7.20 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 3.18 บาท (29ก.ค.61) คาดนักลงทุนเทขายหลังผลการดำเนินงานออกมาไม่สดใส

โดยเฉพาะในไตรมาส 1/61 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.61 มีกำไรสุทธิ 3.38 ล้านบาท หรือลดลง 40% จากปีก่อนมีกำไร 5.62 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนขายและบริการ ต้นทุนทางการเงิน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น อีกทั้งแผนธุรกิจยังไม่โดดเด่นบวกกับภาวะตลาดหุ้นไม่สดใสทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

 

อันดับ 4 บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA  ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 55.11% โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากระดับ 12.92 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 5.80 บาท (29ก.ค.61) คาดนักลงทุนเทขายเนื่องจากผลประกอบการบริษัทออกมาไม่สดใสไตรมาส 1/60 โดยกำไรไตรมาส 1/61 หดตัวถึง 95% เนื่องจากรับผลราคาน้ำมันดิบพุ่งและเงินบาทแข็งรวมทั้งค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ด้านนายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/61 ชะลอตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนจากการเดินเรือปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะกดดันผลประกอบการโดยรวมในระยะสั้นเท่านั้น และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 อย่างแน่นอน

บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 30% จากปีก่อน โดยยังคงเดินหน้าขยายกองเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี และรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อรองรับตลาดปาล์มน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายกองเรือเพิ่มขึ้นอีก 2 ลำ โดยแบ่งเป็นครึ่งปีแรกจำนวน 1 ลำ และครึ่งปีหลังจำนวน 1 ลำ น้ำหนักบรรทุกลำละ 13,000 เดทเวทตัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท ส่งผลให้กองเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 10 ลำเป็น 12 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกรวม เพิ่มขึ้นจาก 82,961 เดทเวทตัน เป็น 108,961 เดทเวทตัน

ขณะที่บริษัทมีแผนที่จะขยายกองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันอีก 30 คัน แบ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 จำนวน 10 คัน และไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จำนวน 20 คัน ส่งผลให้กองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 180 คัน ปริมาณขนส่งรวมเพิ่มเป็น 8.1 ล้านลิตรฃ

ส่วนแผนในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นการเข้าซื้อกิจการที่มีความเหมาะสมกับการลงทุน และเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ หรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

 

อันดับ 5 บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 55.04% โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากระดับ 11.90 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 5.35 บาท (29ก.ค.61) นักลงทุนทยอยขายหุ้นต่อเนื่องส่วนใหญ่มาจากพื้นฐานบริษัทที่ไม่สดใสเห็นได้จากผลขาดทุนตั้งแต่ปี 2559 จนถึงไตรมาส 1/61 ขาดทุนเพิ่ม 130% มาที่ 41.82 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 18.15 ล้านบาท บวกกับไม่มีแผนธุรกิจออกมายิ่งทำให้นักลงทุนขายหุ้นตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button