สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 19 ก.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทอีเบย์ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐดิ่งอย่างหนัก อันเนื่องมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรรัฐ และสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,064.50 จุด ร่วงลง 134.79 จุด หรือ -0.53% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,825.30 จุด ลดลง 29.15 จุด หรือ -0.37% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,804.49 จุด ลดลง 11.13 จุด หรือ -0.40%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเมืองแร่ หลังจากราคาโลหะปรับตัวลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 386.17 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,686.29 จุด ลดลง 79.65 จุด หรือ -0.62% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,417.07 จุด ลดลง 30.37 จุด หรือ -0.56% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,683.97 จุด เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ +0.10%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากยอดค้าปลีกที่ซบเซาของอังกฤษได้สกัดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,683.97 จุด เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ +0.10%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวลงของสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 72.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,224.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 17.2 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 15.402 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 11.5 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 806.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 35.60 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 866.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1644 ดอลลาร์ จากระดับ 1.148 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3015 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3063 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7358 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7402 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.47 เยน จากระดับ 112.85 เยน และอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9990 ฟรังก์ จากระดับ 0.9991 ฟรังก์