ERW บวกต่อ 8% รับอานิสงส์ยอดนักท่องเที่ยวพุ่ง 12% ททท.มั่นใจทั้งปีโตตามเป้าแตะ 37 ล้านคน
ERW บวกต่อ8% รับอานิสงส์ยอดนักท่องเที่ยว 6 เดือนแรกพุ่ง 12% ททท.มั่นใจทั้งปีเข้าเป้าแตะ 37 ล้านคน ล่าสุด ณ เวลา 16.11 น. อยู่ที่ 7.30 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 8.15% สูงสุดที่ 7.35 บาท ต่ำสุดที่ 6.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 70.74 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ล่าสุด ณ เวลา 16.11 น. อยู่ที่ 7.30 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 8.15% สูงสุดที่ 7.35 บาท ต่ำสุดที่ 6.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 70.74 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น ERW ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6.55 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2561 คิดเป็นการปรับตัวขึ้น 0.84 บาท หรือ 16.94%
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้น ERW ปรับตัวขึ้น หลังจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 19,481,749 คน ขยายตัว 12.46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้รวม 1,015,893.31 ล้านบาท ขยายตัว 15.88% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 19,481,749 คน ขยายตัว 12.46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้รวม 1,015,893.31 ล้านบาท ขยายตัว 15.88% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะที่เฉพาะในเดือนมิ.ย.61 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3,025,279 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด 2,284,904 คน รองลงมา ได้แก่ นักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 5 อันดับแรก คือ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สหรัฐอเมริกา และเกาหลี
ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังว่ายังเติบโตได้ดี แม้จะมีเหตุกรณีนักท่องเที่ยวจีนประสบภัยเรือล่มที่ภูเก็ต ซึ่งยังไม่มีการประเมินผลกระทบด้านการท่องเที่ยวในขณะนี้ แต่ทางภาครัฐได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ทั้งการเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นไปตามเป้าที่ 11 ล้านคน และในภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี เชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ 37 ล้านคน มีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีรวม 2 ล้านล้านบาท และไทยเที่ยวไทย 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
โดยจะประสานงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการตรวจสอบการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว เพื่อให้ทราบถึงที่มาของการใช้จ่ายที่เป็นกระแสเงินสดว่ามีหลุดไปต่างประเทศบ้างหรือไม่ หลังจากมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการชำระเงิน เช่น เรื่องของฟินเทค ซึ่งจะติดตามว่ามีผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการไทยอย่างไรบ้าง โดยจะมีสรุปผลการศึกษาเบื้องต้นภายในเดือนหน้า