TK บวกเกือบ 5% นิวไฮในรอบ 1 เดือน โบรกฯแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 14.20 บ. คาดผลงานครึ่งปีหลังสดใส

TK บวกเกือบ 5% นิวไฮในรอบ 1 เดือน โบรกฯแนะ "ซื้อ" ชูเป้า 14.20 บ. คาดผลงานครึ่งปีหลังสดใส โดย ณ เวลา 15.18 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.59% สูงสุดที่ระดับ 11.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 13.50 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ณ เวลา 15.18 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.59% สูงสุดที่ระดับ 11.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 13.50 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 11.40 บาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (6 มิ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท/หุ้น โดยประชุม Opp day เมื่อวานนี้ผู้บริหารปฏิเสธข่าวซื้อธุรกิจ เงินติดล้อ โดยไม่เคยมีการเจรจากันแต่อย่างใด (มอง “ไม่ซื้อ” เป็น บวก มากกว่า “ซื้อ”) แต่มีแผนที่จะซื้อกิจการในต่างประเทศเพื่อขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความถนัด

ทั้งนี้ธุรกิจในต่างประเทศยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งกัมพูชา (มี 6 สาขา และมีแผนเพิ่มอีก 3 สาขาในปีนี้) และ สปป. ลาว และคาดว่าจะได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจที่เมียนมาในครึ่งปีนี้ รวมถึงมีนโยบายซื้อกิจการเพิ่มในประเทศเวียดนาม ผู้บริหารคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 10% (3 เดือนปี 2561 อยู่ที่ 1.8%YTD)

ด้านคุณภาพหนี้ คาดว่า NPL Ratio น่าจะอยู่ที่ 4.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์เดิมที่ 4.5% (1/61 อยู่ที่ 4.8%) โดยกำลังการจ่ายชำระหนี้ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดมีความอ่อนแอลง ผู้บริหารให้ Guidance ว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/61 น่าจะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็น Low season ของธุรกิจ เพราะเป็นช่วงเปิดเทอมและมีวันหยุดเยอะรวมถึงสินค้าเกษตรที่ไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อและจ่ายชำระในกลุ่มลูกค้าของบริษัท

ขณะที่ ปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 ลง 15% เป็น 473 ลบ. (เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อน) เพื่อสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 1/61 ที่ต่ำกว่าคาด และเราได้ปรับประมาณการ การเติบโตของสินเชื่อจาก 15% เป็น 10% ใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทเนื่องจากการชะลอตัวของสินเชื่อรถยนต์ (20% ของพอร์ตสินเชื่อ)

ขณะที่สินเชื่อรถจักรยานยนต์เติบโตน่าจะเห็นอัตราการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3-5% อยู่ โดยปกติสินเชื่อรถจักรยานยนต์จะมีฤดูกาลที่ดีในครึ่งปีหลัง ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่น่าจะมีทิศทางเป็นบวกตั้งแต่กลางปีนี้เช่นกัน แม้ไตรมาส 1/61 สินเชื่อจะแผ่วลงแต่แนวโน้มครึ่งหลังปี 61 น่าจะดีขึ้น  และอัตราการตั้งสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อ (Credit cost) เพิ่มขึ้นเป็น 10.25% จากเดิม 10.15% จาก NPL ที่ยังขยับสูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/60-1/61 สะท้อนความเสี่ยงในกลุ่มลูกค้าฐานราก

โดยภายหลังปรับประมาณการ กำไรสุทธิไตรมาส 1/61 ที่ 112 ลบ. คิดเป็น 23.6% ของประมาณการกำไรทั้งปี คาดว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลงและสินเชื่อที่ค่อยๆฟื้นตัว จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้โดยปรับราคาเหมาะสมใหม่ลงมาอยู่ที่ 14.20 บาท (เดิม 16.70 บาท) อิง PER 15 เท่า (5Y Historical Avg)

Back to top button