สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 30 ก.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของบริษัทในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) หลังจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,306.83 จุด ลดลง 144.23 จุด หรือ -0.57% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,630.00 จุด ลดลง 107.42 จุด หรือ -1.39% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,802.60 จุด ลดลง 16.22 จุด หรือ -0.58%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทไฮเนเก้น ขณะเดียวกันนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางต่างๆในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 390.92 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,798.20 จุด ลดลง 62.20 จุด หรือ -0.48% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,491.22 จุด ลดลง 20.54 จุด หรือ -0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.85 จุด ลดลง 0.46 จุด หรือ -0.01%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.85 จุด ลดลง 0.46 จุด หรือ หรือ -0.01%

 

–สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแคนาดา อาจประสบภาวะตึงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 70.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 74.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดฉากการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาทองคำในระหว่างวัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,231.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.4 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 15.537 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 831.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 922.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1709 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1656 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3135 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3111 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7408 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7401 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9880 ฟรังก์ จากระดับ 0.9939 ฟรังก์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ  111.00 เยน จากระดับ 110.98 เยน

 

Back to top button