IVL ควักหมื่นล้านซื้อ Avgol อึ้ง! พบกำไรไตรมาส 1/61 มีแค่ 6 ล้านบาท
IVL ควักหมื่นล้านซื้อ Avgol อึ้ง! พบกำไรไตรมาส 1/61 มีแค่ 6 ล้านบาท
สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Avgol Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอนันวูเว่นสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยชั้นนำของโลกและเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสราเอล (Tel Aviv Stock Exchange: AVGL.TA) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ในวันที่ 26 กรกฏาคม 2561 บริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นบริษัท Avgol Industries เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นในอัตราร้อยละ 65.72 หรือคิดเป็น 193 ล้านหุ้น ของบริษัท Avgol Industries 1953 Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Tel-Aviv Stock Exchange (TASE) ประเทศอิสราเอล รวมเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 313.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.95 พันล้านบาท
โดย การเข้าซื้อกิจการนี้ นาย อาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ เปิดเผยว่า เป็นการเข้าซื้อกิจการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตในธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย
ทั้งนี้ Avgol เป็นผู้ผลิตเส้นใยนันวูเว่นที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ ผ้าอ้อมเด็ก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยสำหรับผู้หญิงและผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่
โดยมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์สิ่งทอนันวูเว่นอย่างครบวงจร และมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า Avgol มีโรงงานทั้งหมด 6 แห่ง ในประเทศอิสราเอล สหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีนและอินเดีย โดยมีกำลังการผลิตรวม 203,000 ตันต่อปี มีพนักงานทั้งสิ้น 900 คนทั่วโลก
อีกทั้ง มีความเชี่ยวชาญที่เป็นเอกลักษณ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นันวูเว่นที่มีประสิทธิภาพสูง จากตำแหน่งทางการตลาดที่โดดเด่นและชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล ส่งผลให้ IVL ขยายบทบาทในตลาดที่เติบโตสูงดังกล่าวและอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับโอกาสจากการเติบโตใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่าผลประกอบการ Avgol Industries ย้อนหลัง 3 ปี (2558-2560) งวดปี 2558 มีรายได้รวม 367.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 20.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2559 มีรายได้รวม 339.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 24.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปี 2560 มีรายได้ 340.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 27.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ การสำรวจข้อมูลล่าสุดจากระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ยังพบอีกว่า Avgol Industries รายงานผลการดำเนินงวดไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ 671,000 Shekel (สกุลเงินอิสราเอล) หรือคิดเป็นประมาณ 6.14 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นที่น่าสังเกตว่า IVL ใช้งบประมาณถึง 9.95 พันล้านบาท เพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัท Avgol Industries ที่มีกำไรสุทธิต่อปีเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น จึงเป็นที่น่าจับตาว่าสัดส่วนรายได้ที่บริษัทฯ จะได้รับจากการการเข้าซื้อบริษัท Avgol Industries ในอนาคตจะคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่ได้เข้าไปซื้อกิจการหรือไม่
อีกทั้ง การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทอย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ หรือเป็นแค่การทำอะไรเกินกำลังของตัวเองจนสุดท้ายต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่จำเป็น
นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลพบว่า การเข้าซื้อกิจการของ IVL นับตั้งแต่ต้นปี 2561 เป็นในระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นจำนวนกิจการได้ทั้งหมด 6 กิจการด้วยกัน ประกอบด้วย
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2561 บริษัทประกาศเข้าซื้อกิจการในอัตราร้อยละ 100 ของบริษัท M&G Polimeros Brazil S.A. ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอีโปะจูกา (Ipojuca) ประเทศบราซิล โดยโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 550,000 ตันต่อปี
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2561 บริษัทประกาศเข้าซื้อหุ้นในอัตราร้อยละ 65.72 ของ บริษัท Avgol Industries 1953 Ltd. ผู้ผลิตชั้นนำของเส้นใยนันวูเว่น (non-woven fabric) สำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าอ้อมเด็ก (diapers) ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ (incontinence) และผลิตภัณฑ์อื่นในตลาดเพื่อสุขอนามัย โดยบริษัท Avgol Industries 1953 Ltd. เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Tel-Aviv Stock Exchange (TASE) ประเทศอิสราเอล
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ได้ส่งบริษัท Indorama Netherlands B.V. (INBV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม เข้าทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Dhunseri Petrochem Limited (Dhunseri) ประเทศอินเดีย เพื่อเข้าซื้อกิจการโรงงานผลิต PET ของบริษัท Egyptian Indian Polyester Company S.A.E. (EIPET) ในประเทศอียิปต์ และเป็นหนึ่งในผู้ผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดในแถบตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกา
ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2561 ได้ส่งบริษัท Auriga Polymers Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา (Auriga) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ IVL ได้ลงนามเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Huvis Global Corporation ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ Huvis Indorama Advanced Materials, LLC. (HIAM) ในสหรัฐอเมริกา สัดส่วนร้อยละ 50:50 โดยบริษัท HIAM จะดำเนินการผลิตเส้นใยที่มีค่าหลอมเหลวต่ำ (Low Melting Fiber: LMF) ด้วยกำลังการผลิต 6 หมื่นตัน/ปี คาดว่าโรงงานจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 62
ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2561 ได้ส่งบริษัท Indorama Ventures Spain S.L. (IVSSL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท PROXY – FINANCE a.s., PROSPERITA holding a.s. และ Ing. IGOR FAIT เพื่อเข้าซื้อหุ้นในอัตราร้อยละ 100 ของบริษัท KORDÁRNA Plus a.s. (Kordarna) สาธารณรัฐเช็ก ทั้งนี้ Kordarna เป็นผู้ผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป มีโรงงานผลิตหนึ่งแห่งในสาธารณรัฐเช็ก และอีกแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐสโลวัก
ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ได้ส่งบริษัท Indorama Netherlands B.V. (INBV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ได้ลงนามในสัญญาซื้อกิจการกับบริษัท Middle East Glass S.A.E. และ นาย Mohamed Hassan Samaha เพื่อเข้าซื้อกิจการในอัตราร้อยละ 74 ของทุนเรือนหุ้นของบริษัท Medco Plast for Packing and Packaging Systems S.A.E. ประเทศอียิปต์ โดยการเข้าซื้อกิจการขึ้นอยู่กับการได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3/61
ทั้งนี้ MEDCO เป็นผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ PET ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอียิปต์ ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดโดยประมาณอยู่ที่อัตราร้อยละ 25 และมีกำลังการผลิต PET Preforms อยู่ที่ 70,000 ตันต่อปี