สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 1 ส.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,333.82 จุด ลดลง 81.37 จุด หรือ -0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,813.36 จุด ลดลง 2.93 จุด หรือ -0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,707.29 จุด เพิ่มขึ้น 35.50 จุด หรือ +0.46%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้คณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐ พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนสู่ระดับ 25%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.5% แตะที่ 389.84 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,737.05 จุด ลดลง 68.45 จุด หรือ -0.53% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,498.37 จุด ลดลง 12.93 จุด หรือ -0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,652.91 จุด ลดลง 95.85 จุด หรือ -1.24%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้คณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐ พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,652.91 จุด ลดลง 95.85 จุด หรือ -1.24%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญคาดการณ์ว่าจะลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 67.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 1.82 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2.5% ปิดที่ 72.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐจะแถลงมติการประชุม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.00 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,227.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 10.7 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 15.452 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 28.60 ดอลลาร์ หรือ 3.38% ปิดที่ 817.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 20.00 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2.2% ปิดที่ 911.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1664 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1697 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7399 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7435 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3127 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3124 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9919 ฟรังก์ จากระดับ 0.9900 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.57 เยน จากระดับ 111.84 เยน

 

Back to top button