COTTO เปิดเทรดวันแรก 2.70 บาท หลังควบรวม 5 กิจการเครือ SCC
COTTO เปิดเทรดวันแรก 2.70 บาท หลังควบรวม 5 กิจการเครือ SCC ล่าสุด ณ เวลา 11.07 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.94 บาท สูงสุดที่ระดับ 3.04 บาท 2.64 ต่ำสุดที่ระดับ บาท มูลค่าการซื้อขาย 419.70 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO เปิดการซื้อขายวันนี้ (3 ก.ค.2561) เป็นวันแรกภายหลังจากควบรวม 5 กิจการซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC โดยการซื้อขายวันนี้จะไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด
ทั้งนี้ราคาหุ้นเปิดตลาดวันแรกที่ 2.70 บาท ล่าสุด ณ เวลา 11.07 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.94 บาท สูงสุดที่ระดับ 3.04 บาท 2.64 ต่ำสุดที่ระดับ บาท มูลค่าการซื้อขาย 419.70 ล้านบาท
ทั้งนี้ COTTO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกปูพื้นและบุผนังเป็นธุรกิจหลัก ภายใต้เครื่องหมายการค้า COTTO, SOSUCO และ CAMPANA และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมหนองแค
อนึ่งการควบรวมกิจการดังกล่าวเป็นไปตามที่ประชุมคณะกรรมการ SCC เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.60 มีมติอนุมัติการสนับสนุนการปรับโครงสร้างธุรกิจเซรามิก ด้วยการควบบริษัทย่อยของที่บริษัท ถือหุ้นผ่านบริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด (CCCL) รวมทั้งหมดจำนวน 5 บริษัท (ธุรกรรมการควบบริษัท) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทย
โดยประกอบด้วย บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด (TCC) , บริษัท เดอะ สยาม เซรามิค กรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด (SGI) , บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด (SSG) ,บริษัท เจมาโก จำกัด (GMG) และ TGCI
ทั้งนี้ภายหลังจากได้ดำเนินการควบบริษัทและนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดรับจดทะเบียนควบบริษัทแล้ว ส่งผลให้บริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และบมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) จะรับโอนทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบทั้งหมดของบริษัทข้างต้น
โดยบริษัทใหม่จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเท่ากับ 5.96 พันล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 5.96 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทย่อยทั้ง 5 ขณะที่จากข้อมูลทางการเงินรวมเสมือนของบริษัทใหม่ บริษัทใหม่มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 1.34 หมื่นล้านบาท และมีรายได้รวมสำหรับปี 2559 จำนวน 1.37 หมื่นล้านบาท และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 1.03 หมื่นล้านบาท