TNP อัดฉีด 100 ลบ.ขยายสาขาเพิ่ม 5 แห่ง มั่นใจปีนี้โกยรายได้ 15% ตามเป้า

TNP อัดฉีด 100 ลบ.ขยายสาขาเพิ่ม 5 แห่ง มั่นใจปีนี้โกยรายได้ 15% ตามเป้า


นางอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบในช่วงครึ่งหลังปี 2561 คาดจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวที่จ.เชียงรายเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ประกอบกับการติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 10 สาขา เพื่อรองรับการเข้ามาใช้งานของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างทั่วถึง

สำหรับทั้งปี 61 บริษัทมั่นใจจะมีรายได้เติบโตตามเป้าหมายเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 10-15% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ราว 1,600 ล้านบาท และตั้งงบลงทุนสำหรับการขยายสาขาเพิ่มไม่เกิน 100 ล้านบาท จำนวน 5 สาขา นับเป็นการขยายอย่างระมัดระวังและรอบคอบ โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว 2 สาขา ในจ.เชียงราย อีก 3 สาขาอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ทั้งนี้ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี บริษัทจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้นจำนวน 24 สาขา จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมามี 19 สาขา แบ่งเป็นสาขาในจังหวัดเชียงรายจำนวน 22 สาขา และจังหวัดพะเยาอีก 2 สาขา รวมทั้งการบริหารสินค้าคงคลัง เพิ่มไลน์สินค้าใหม่เข้ามา เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

ด้านนายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ ของ TNP เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 852.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.10% จากงวดปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.45% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 13.63%

สำหรับงวดไตรมาส 2/61 มีรายได้จากการขายและบริการ 429.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13.90 ล้านบาท ลดลง 1.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพื่อสนับสนุนสาขาที่เติบโต ค่าเสื่อมราคาศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ และภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นรวมจำนวนประมาณ 7.65 ล้านบาท

“ผลงานที่ออกมาเป็นไปตามคาดหมาย รายได้จากการขายและการให้บริการเติบโต ส่วนใหญ่มาจากการขยายสาขาของบริษัท และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาเก่า มีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ราว 0.4% ขณะที่สัดส่วนต้นทุนขายและการให้บริการต่อรายได้จากการขายและการให้บริการ ในงวดไตรมาส 2/61 และในงวดครึ่งปีแรกของปี 61 มีแนวโน้มลดลงอยู่ที่ 86.37% และ 86.28% ตามลำดับ สะท้อนการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ารายได้จากการขายส่งของสำนักงานใหญ่ รวมทั้งการได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย สนับสนุนกำไรขั้นต้นเติบโตขึ้น” นายธวัชชัย กล่าว

Back to top button