สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 6 ส.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,502.18 จุด เพิ่มขึ้น 39.60 จุด หรือ +0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,850.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด หรือ +0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,859.68 จุด เพิ่มขึ้น 47.66 จุด หรือ +0.61%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 388.66 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,477.18 จุด ลดลง 1.80 จุด, -0.03% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,598.21 จุด ลดลง 17.55 จุด, -0.14%  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,663.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด, +0.06%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษได้แสดงมุมมองที่เป็นลบต่อกระบวนการ Brexit ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,663.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด หรือ +0.06%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากข่าวซาอุดิอาระเบียลดการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค. และรัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 69.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 73.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลกระทบจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่าน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,217.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.4 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 15.348 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 10.6 ดอลลาร์ หรือ 1.27% ปิดที่ 826.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 903.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่ราบรื่นของกระบวนการ Brexit ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.39 เยน จากระดับ 111.23 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ  0.9963 ฟรังก์ จากระดับ 0.9940 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1553 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1579 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2943 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3009 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7389 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7404 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button