ASIAN ร่วงกว่า 5% รับข่าวลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 10% หลังเจอภาวะแข่งขันสูง
ASIAN ร่วงกว่า 5% รับข่าวลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 10% หลังเจอภาวะแข่งขันสูง ล่าสุด ณ เวลา 15:12 น. อยู่ที่ระดับ 8.65 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 5.46% สูงสุดที่ระดับ 9.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 127.79 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ณ เวลา 15:12 น. อยู่ที่ระดับ 8.65 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 5.46% สูงสุดที่ระดับ 9.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 127.79 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนัก หลังมีการรายงานข่าวว่าบริษัทมีการปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือเติบโต 10% จากเดิมตั้งเป้าเติบโตที่ระดับ 15% หลังเจอผลกระทบราคาขายกุ้งและปลาหมึกจากภาวะการแข่งขันทางตลาดสูง
อนึ่ง นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทิร์นดรอป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานบริหารสายการเงิน ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้เหลือโต 10% จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15% เนื่องจากรายได้ในไตรมาส 1/61 ออกมาไม่ดีนัก และได้รับผลกระทบจากราคาขายกุ้งและปลาหมึกที่ลดลงจากภาวะการแข่งขันของตลาดสูง ทำให้มีการขายตัดราคากัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันและกระทบผลการดำเนินงานในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายยังคงเป้าหมายการเติบโตที่ 15%
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ล่วงหน้าเข้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งในกลุ่มสินค้าอาหารคนและอาหารสัตว์ อีกทั้งเงินบาทยังคงอยู่ในช่วงอ่อนค่าที่ 33 บาท/ดอลลาร์ช่วยหนุนภาพรวมของผลการดำเนินงานได้ดี เนื่องจากรายได้ของบริษัทมาจากการส่งออกถึง 70% ทำให้ทิศทางค่าเงินบาทมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงาน
“แม้บริษัทจะปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ลง แต่ในส่วนของกำไรสุทธิเชื่อว่าจะยังคงทำได้น่าพอใจ เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนของธุรกิจที่มีอัตรากำไรดีเพิ่มขึ้น ในส่วนของค่าเงินบาทที่ผันผวนนั้น บริษัทยังคงนโยบายป้องกันความเสี่ยงเป็นสำคัญ และเชื่อว่าค่าเงินบาทที่ระดับเกินกว่า 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นระดับที่บริษัทสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพ และสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยมีอัตรากำไรที่น่าพอใจ” นายเวสเทิร์นดรอป กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารสัตว์ และช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะการมองหากิจการที่ขะเข้ามาช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในอนาคต เพื่อการขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งดีลที่บริษัทอยู่ระหว่างเจรจามีมูลค่า 100-200 ล้านบาท แต่การตัดสินใจลงทุนจะต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน เป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นมากที่สุด