“โนมูระฯ” ย้ำเป้า AMANAH สูงปรี๊ด 3.26 บาท รับงบ Q2/61 พลิกกำไร! หนุนอัพไซด์บาน 44%

"โนมูระฯ" ย้ำเป้า AMANAH สูงปรี๊ด 3.26 บาท รับงบ Q2/61 พลิกกำไร! หนุนอัพไซด์บาน 44%


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ วันนี้ (9 ส.ค.2561) โดยมองว่า บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH เข้าสู่ช่วงเติบโตสูง โดยคาดธนาคารอิสลามมีโอกาสขยายวงเงินกู้เพิ่ม

ทั้งนี้ ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมา 12% จากต้นปีจากความคาดหวัง AMANAH สร้างฐานกำไรที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพได้เป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน (ไตรมาส 3/2560-ไตรมาส 2/2561) ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะเติบโตแบบก้าวกระโดดตั้งแต่ไตรมาส 3/2561 เป็นต้นไป ประกอบกับ จากประมาณการเติบโตของสินเชื่อในอัตราเร่ง โดยคาดว่า บริษัทจะได้รับการขยายวงเงินกู้เพิ่มเติมในช่วงถัดไปในอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม (กรอบ 4%) จากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ขยายวงเงินกู้สู่ระดับ 2.5-3.0 พันลบ. (เดิม 2.0 พันลบ.)

ขณะที่ วานนี้ บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2561 ที่ 37.8 ลบ. (หากรวมสำรองพิเศษ 2 ลบ. จะเท่ากับกำไรรวม 39.8 ลบ. ใกล้เคียงคาด) พลิกเป็นกำไรจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน (ไตรมาส 2/2560 ขาดทุน 52 ลบ.) แต่ลดลง 17% จากไตรมาสก่อนจากเป็น Low season ของอุตสาหกรรม ประกอบกับ บริษัทชะลอการปล่อยสินเชื่อใหม่ในเม.ย.-พ.ค.18 จากความไม่ชัดเจนประเด็นพรบ.เช่าซื้อฉบับใหม่ ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางบวก กระทบเฉพาะผู้ประกอบการให้เช่าซื้อรถยนต์ไม่เกี่ยวกับธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของบริษัท

โดยหลังจากนั้นบริษัทกลับมาเร่งปล่อยสินเชื่ออีกครั้งในมิ.ย.18 เพียงเดือนเดียวแต่ก็สามารถเร่งฐานสินเชื่อใหม่ในไตรมาสนีได้ถึง 270 ลบ. หนุนรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มมาที่ 110.7 ลบ. เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อนในขณะที่การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 30.7 ลบ. ลดลง 66% จากปีก่อน, แต่เพิ่มขึ้น 95% จากไตรมาสก่อน แบ่งออกเป็น สำรองจากการดำเนินงานปกติ 28.7 ลบ.

ขณะที่ตั้งสำรองพิเศษสำหรับ IFRS9 มูลค่า 2 ลบ. (คาดว่าเป็นก้อนสุดท้ายก่อนบังคับใช้ 1 ม.ค. 2020) ส่งผลให้ NPL ratio เพิ่มขึ้น 7.35% (ไตรมาส 1/2561 7%)

ทั้งนี้กำไรครึ่งปีแรกเท่ากับ 50% ของประมาณการทั้งปี และมี Downside จำกัดประเมินผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปี 2561 ยังมีแนวโน้มที่ดี คาดการปล่อยสินเชื่อใหม่จะเพิ่มอัตราเร่งตั้งแต่ในไตรมาส 3/2561 ซึ่งบริษัทตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 350 – 450 ลบ. ต่อไตรมาส (270 ลบ. ในไตรมาส 2/2561) หลังคลายกังวลพรบ.เช่าซื้อ และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คาดธนาคารอิสลามมีโอกาสขยายวงเงินกู้ให้แก่ AMANAH เพิ่มจากเดิม 2 พันลบ. ขึ้นเป็น 2.5-3.0 พันลบ. เพื่อรองรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อใหม่ในปี 2561

ขณะที่ต้นทุนทางการเงินคงที่แต่ Loan yield สูงขึ้นต่อเนื่อง คาดแตะ 20.6% ในไตรมาส 4/2561 จากสัดส่วนสินเชื่อ ATM มีสัดส่วนกว่า 90% ของพอร์ต ส่งผลให้ NIM ปี 2561 ขยายกว้างขึ้นที่ระดับ 14.6% ทั้งนี้ คงคำแนะนำซื้อมูลค่าพื้นฐาน ปี 2561ที่ 3.26 บาท จากคาดยอดสินเชื่อใหม่ในครึ่งปีหลังจะเติบโตในอัตราเร่ง เข้าสู่ Growth stage เต็มกำลัง หนุนคาดกำไรปี 61 โตแรงถึง 244% จากปีก่อน ทำ Alltime high ตั้งแต่เข้าตลาดฯ ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่เพียง PER ปี 2561 ที่ 13.2 เท่า

Back to top button