IRPC รายได้พุ่ง ดันกำไร Q2/61 กระฉูดกว่า 2 เท่าตัว สู่ระดับ 4.05 พันลบ.
IRPC รายได้พุ่ง ดันกำไร Q2/61 กระฉูดกว่า 2 เท่าตัว สู่ระดับ 4.05 พันลบ. จากปีก่อนกำไร 1.23 พันลบ. ขณะที่งวด 6 เดือนกำไรโต 89.27% มาที่ 6.80 พันลบ. จากปีก่อนกำไร 3.59 พันลบ.
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการกลั่นน้ำมันรวมอยู่ที่ 19.10 ล้านบาร์เรล คิดเป็น 210 พันบาร์เรลต่อวัน โดยอัตราการใช้กำลังการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 98% บริษัทฯมีรายได้จากการขายสุทธิ 65,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 เป็นผลจากทั้งราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคา (Market GIM) อยู่ที่ 8,493 ล้านบาท (13.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ปรับตัวลดลง เป็นผลจากราคาวัตถุดิบน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเคมีปรับเพิ่มขึ้นจากการใช้อัตราการผลิตได้ อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงบางโรงงานในไตรมาส 1/61 ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยสนับสนุน Market GIM บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี ( Accounting GIM) 10,708 ล้านบาท (17.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้น 22% เป็นผลจำกบริษัทฯ มีกำไรจากสต๊อค น้ำมันสุทธิ 2,215 ล้านบาท (3.61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา
โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/60 บริษัทฯ มีปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ในช่วงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของหน่วยผลิต ADU II เพื่อเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิเพิ่มขึ้น 15,437 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31% เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23% จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และปริมาณขายเพิ่มขึ้น 8% โดยบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) เพิ่มขึ้น 253 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเพียง 3%
ทั้งนี้ เนื่องจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น มีกำไรจากสต๊อคน้ำมันสุทธิเพิ่มขึ้น 3,393 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรจากการผลิต ทำงบบัญชี (Accounting GIM) เพิ่มขึ้น 3,646 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 52% บริษัทฯมีกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้น 3,456 ล้านบาท หรือ 93% ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง 100 ล้านบาท เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากการชำระคืน เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ และอัตราดอกเบี้ยลดลงจากการเจรจาขอปรับลดดอกเบี้ย ประกอบกับมีกำไรจากการทำอนุพันธ์ทำงกำรเงินส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2,822 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 230%