SAWAD พุ่งแรงเกือบ 9% เผยรายได้โตต่อเนื่อง ฟากโบรกฯแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 43 บ.
SAWAD พุ่งแรงเกือบ 9% เผยรายได้โตต่อเนื่อง ฟากโบรกฯแนะ "ซื้อ" ชูเป้า 43 บ. โดย ณ เวลา 15.23 น. ราคาอยู่ที่ 36.75 บาท บวก 3 บาท หรือ 8.89% สูงสุดที่ 38 บาท ต่ำสุดที่ 33.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ณ เวลา 15.23 น. อยู่ที่ 36.75 บาท บวก 3 บาท หรือ 8.89% สูงสุดที่ 38 บาท ต่ำสุดที่ 33.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยฝ่ายกลยุทธ์องค์กรของ SAWAD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/61 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ย 1,384.45 เพิ่มขึ้น 11.03% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย 1,246.88 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 1,873.90 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ราวม 1,818.11 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อในไตรมาส 2/61
โดยงบการเงินรวมงวดไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 665 ล้านบาทลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 687.30 ล้านบาทสาเหตุมาจากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มความรอบคอบในการทำธุรกิจ และสอดคล้องการการเติบโตของลูกหนี้ของกลุ่มบริษัท
สำหรับงวด 6 เดือน ปี 2561 บริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ย 2,628.11 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.68 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย 2,440.55 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 3,618.02 ล้านบาท ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,689.61 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่รายได้รวมลดลงเนื่องจากงวดเดียวกันของปี 2560 มีการบันทึกรายการพิเศษจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ หรือ BFIT ซึ่งเป็นผลให้กำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกปี 2561 ลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560
ทั้งนี้ ผลการดำเนินในไตรมาส 2/61 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทยังมีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตัวเลขลูกหนี้สุทธิที่เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากสิ้นสุด 6 เดือนแรกของปี 2560 ที่มีลูกหนี้สุทธิ 19,766.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 24,510.98 ล้านบาท แต่เมื่อเปรียบเทียบจากไตรมาส 1/61 ลูกหนี้สุทธิจะเติบโต 5 %
“ไตรมาส 2/61 ลูกหนี้สุทธิจะเติบโตค่อนข้างมากเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม กรณีลูก NPL ที่มีปัญหาในไตรมาส 1/61 ได้มาปิดบัญชีไปทำให้ลูกหนี้สุทธิในไตรมาสสองเติบโตเพียง 5% แต่หากไม่นับรวมการปิดบัญชีของลูกหนี้จำนวนดังกล่าว พอร์ตลูกหนี้สุทธิเมื่อเทียบรายไตรมาสจะเติบโตถึง 8%“ นางสาวธิดา กล่าว
สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2561 ได้ปรับลดลงมาเหลือที่ 4.7% จากสิ้นสุดไตรมาส 1/61 ที่มีเอ็นพีแอลประมาณ 8% หลังจากที่ลูกหนี้เอสเอ็มอีรายหนึ่งมาปิดบัญชี ซึ่งทำให้ภาพรวมเอ็นพีแอลของบริษัทกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ส.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 43 บาท/หุ้น โดย SAWAD รายงานกำไรไตรมาส 2/61 ที่ 607 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เนื่องจากรายได้อื่นต่ำกว่าคาด โดยกำไรลดลง 3.7% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้อื่นลดลง และการตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 กำไรเพิ่มขึ้น 7.5% จากไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาก ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่าย การตั้งสำรองจะเพิ่มขึ้น และรายได้อื่นลดลงก็ตาม
โดยในไตรมาสนี้สินเชื่อของ SAWAD เร่งตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 6.2% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่สินเชื่อเติบโต 2.9% จากไตรมาสก่อน และทำให้สินเชื่อเติบโตจากสิ้นปี 60 เป็น 9.2% ytd ในขณะที่ NPL ที่เคยมีปัญหาในไตรมาสที่ผ่านมากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่งผลให้ NPL ลดลงเหลือ 4.7% จาก 7.5% ในไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ จากรายได้อื่นที่ต่ำกว่าคาด ทางฝ่ายปรับประมาณการกำไรลงเป็น 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน และปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 43 บาท ยังคงมีส่วนต่างจากราคาปัจจุบันพอสมควร จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”