สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 16 ส.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเกือบ 400 จุดเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบที่ดีเกินคาดของวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รวมทั้งข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,558.73 จุด พุ่งขึ้น 396.32 จุด หรือ +1.58% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,806.52 จุด เพิ่มขึ้น 32.41 จุด หรือ +0.42% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,840.69 จุด เพิ่มขึ้น 22.32 จุด หรือ +0.79%
–ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคลี่คลายลงของวิกฤตการเงินตุรกี รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า จีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 381.43 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,237.17 จุด เพิ่มขึ้น 74.16 จุด หรือ +0.61% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,349.02 จุด เพิ่มขึ้น 43.80 จุด หรือ +0.83% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,556.38 จุด เพิ่มขึ้น 58.51 จุด, +0.78%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากวิกฤตการเงินตุรกีที่เริ่มคลี่คลายในทางที่ดี รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐและจีนจะหันหน้าเจรจารอบใหม่เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,556.38 จุด เพิ่มขึ้น 58.51 จุด หรือ +0.78%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า จีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือเกือบ 1% ปิดที่ 71.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเกือบ 400 จุด อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า จีนและสหรัฐเตรียมเจรจารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1184.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 25.9 เซนต์ หรือ 1.79% แตะที่ 14.713 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.60 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 784.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 37.60 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 874.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ขานรับความหวังที่ว่า ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลง หลังจากจีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยในขณะที่ข้อมูลแรงงานมีความแข็งแกร่งนั้น ตัวเลขการสร้างบ้านขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในเดือนก.ค.
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.88 เยน จากระดับ 110.58 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9964 ฟรังก์ จากระดับ 0.9927 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1365 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1344 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2708 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2692 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7237 ดอลลาร์สหรัฐ