ดอลล์ปรับลงหลังเงินเฟ้อจีนชะลอตัว

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแรงของจีนทำให้นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินฝืด และหันไปให้ความสนใจกับสกุลเงินที่มีความปลอดภัย อย่างสกุลเงินเยน ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1280 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1276 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5375 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5334 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.35 เยน เทียบกับระดับ 124.61 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9310 ฟรังก์ จาก 0.9293 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7682 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7696 ดอลลาร์

วานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนพ.ค.ขยายตัว 1.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และชะลอลงจากอัตรา 1.5% ในเดือนเม.ย. ข้อมูลดังกล่าวได้ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างรอดูยอดค้าปลีกของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ หลังจากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยอดค้าปลีกที่อ่อนแอได้จุดปะทุความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และสกัดคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเดือนก.ย.

ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาสถานการณ์หนี้สินของกรีซ โดยล่าสุด กรีซได้ยื่นข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจต่อเจ้าหนี้เมื่อวานนี้ เพื่อแลกกับการขอรับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวครอบคลุมถึงเป้าหมายด้านภาษี หนี้ และงบประมาณของประเทศ นอกจากนี้ กรีซยังได้ขอใช้เงินจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เพื่อนำไปชำระพันธบัตรที่ถือครองโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงเดือนก.ค.และส.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หลายรายของสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าวของกรีซ โดยระบุว่า ข้อเสนอเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ EU มอบเงินช่วยเหลืองวดต่อไป และสมาชิก EU หลายประเทศไม่สามารถยอมรับได้

Back to top button