น้ำมันดิบปิดวานนี้พุ่งขึ้น หลังสต็อกสหรัฐร่วง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 65.7 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 6.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 470.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2014 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 58.0 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 217.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2014 และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 865,000 บาร์เรล สู่ระดับ 133.5 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล

สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นอกจากนี้ EIA ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยของสหรัฐอยู่ที่ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค. พร้อมกับคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2558 จะอยู่ที่ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าในปี 2559 การผลิตน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

Back to top button