สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 4 ก.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยสหรัฐและแคนาดาจะเปิดฉากการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่อีกครั้งในวันนี้ หลังจากการเจรจาคว้าน้ำเหลวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,952.48 จุด ลดลง 12.34 จุด หรือ -0.05% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,091.25 จุด ลดลง 18.29 จุด หรือ -0.23% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,896.72 จุด ลดลง 4.80 จุด หรือ -0.17%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยสหรัฐและแคนาดาจะเปิดฉากการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่อีกครั้งในวันนี้ หลังจากการเจรจาคว้าน้ำเหลวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.7% แตะที่ระดับ 379.83 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,457.86 จุด ลดลง 46.74 จุด หรือ -0.62% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,342.70 จุด ลดลง 71.10 จุด หรือ -1.31% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,210.21 จุด ลดลง 136.20 จุด หรือ -1.10%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักร ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,457.86 จุด ลดลง 46.74 จุด หรือ -0.62%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า พายุเฮอร์ริเคนเตรียมพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ขยับขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 69.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 78.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบกว่า 14 ปี
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,199.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37.7 เซนต์ หรือ 2.59% ปิดที่ 14.18 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 778.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือเกือบ 0.3% ปิดที่ 967.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางการร่วงลงอย่างหนักของสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.33% แตะที่ระดับ 95.4431 เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐ