บุกรังเย็น “เสี่ยเสือดำ ITD” ฟ้องรุกป่า 600 ลบ. ทหารลุยต่อ “ชาโต เดอ เลย” อีกพันไร่!

บุกรังเย็น "เสี่ยเสือดำ ITD" ฟ้องรุกป่า 600 ลบ. ทหารลุยต่อ "ชาโต เดอ เลย" อีกพันไร่!


สืบเนื่องจากกรมป่าไม้ ได้ร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในความผิดร่วมกันบุกรุกป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484  เนื้อที่ประมาณ 6,000 ไร่ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 56/2561 จากนั้นจึงประสานขอรับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 15/2561 จาก สภ.โคกงาม อ.ด่านซ้าย จ.เลย มาเป็นพยานหลักฐานในคดีพิเศษ

ล่าสุด วานนี้ (4 ก.ย.) มีรายงานว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ. สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ใน ฐานะหัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4(ศปป.4 ) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) พ.อ.สมหมาย บุษบา เสนาการมณฑลทหารบก 28 ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อติดตามการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มนายทุนบุกรุกป่ากรณีรังเย็น รีสอร์ท อ.ภูเรือ และอ.ด่ายซ้าย จ.เลย

โดยจุดแรกเข้าไปยังบริเวณ รังเย็นรีสอร์ท ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย ซึ่งเมื่อเดือนก.ย.2560 กรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 19-2-03 ไร่ ที่ออกให้แก่บริษัทซี.พี.เค.อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ของครอบครัว นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการประธาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน หรือ ITD โดยนายเปรมชัย เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารบริษัทซี.พี.เค.อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2545 ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินโดยไม่มีหลักฐานสำหรับที่ดิน ถือเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังจุดที่สองคือ บริเวณบ้านชัยชนะ ซึ่งคาดว่าเป็นบ้านพักของนายเปรมชัย  ตั้งอยู่บนยอดเขาพบบ้านพักตากอากาศหรู 2 หลัง และบ้านพักคนงาน1หลัง ต่อมาได้เข้าตรวจสอบบ้านพักที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงพบห้างส่งสัตว์บนต้นไม้สูงพร้อมถาดวางลูกกระสุนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นรอบบริเวณยังพบกรงเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่หลายจุด แต่ไม่มีสัตว์หลงเหลืออยู่แล้ว

ด้าน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม เปิดเผยว่า กรมป่าไม้จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ซี.พี.เคฯ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรังเย็น รีสอร์ท และจะดำเนินคดีฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งกับบริษัทซี.พี.เคฯ ที่บุกรุกพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น1,2 ทั้งหมด 6,229 ไร่ ที่ถูกครอบครองทำประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2546 มูลค่าความเสียหายเฉลี่ยไร่ละ กว่า 1 แสนบาท รวมมูลค่ามากกว่า 600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามบริษัท ซี.พี.เค. ฯ ได้ยื่นเรื่องขอใช้ประโยชน์ในเรื่องการเก็บผลผลิตมะคาเดเมีย และ ในส่วนของตัวรังเย็น รีสอร์ท ซึ่งฝ่ายกฎหมายของกรมป่าไม้กำลังพิจารณา แต่คาดว่าไม่น่าจะอนุญาตเพราะมีการใช้ประโยชน์มายาวนานมากแล้ว

ทั้งนี้ได้ตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ พบว่ายังมีการถือครองที่ดินเพิ่มเติมในพื้นที่รอบนอกที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ด้วย จึงได้ตรวจยึดเพิ่มอีก 249 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อหาออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบพบว่าคดียังไม่หมดอายุความ แต่ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้หลบหนีไปยังประเทศลาว

ส่วน พ.อ.สมหมาย บุษบา เปิดเผยว่า บริษัทซี.พี.เค.ฯ ทำผิดกฎหมายแน่นอน เนื่องจากการตั้งบ้านอยู่บนยอดเขาในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1,2 คือเป็นการทำผิดกฎหมายพื้นที่ ขณะนี้รัฐ ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดแล้ว 147 แปลง เนื้อที่ 6,229 ไร่ และกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ไปแล้ว จากนี้จะมีการตรวจสอบว่าพื้นที่ที่ถูกบุกรุกจริงนั้นมีจำนวนเท่าไร โดยในเบื้องต้นประเมินไว้มากกว่า 1.3 หมื่นไร่

นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบบริเวณสวนองุ่นภูเรือวโนทยานหรือ ชาโต เดอ เลย เนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ด้วยว่าได้เอกสารสิทธิมาโดยชอบหรือไม่

Back to top button