สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ก.ย. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ขณะที่ดัชนี Nadaq ร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากผู้บริหารของบริษัทเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐ เกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,974.99 จุด เพิ่มขึ้น 22.51 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,995.17 จุด ลดลง 96.07 จุด หรือ -1.19% และ ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.60 จุด ลดลง 8.12 จุด หรือ -0.28%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา รวมทั้งแนวโน้มการทำสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.4% แตะที่ระดับ 378.19 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,040.46 จุด ลดลง 169.75 จุด หรือ -1.39% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,260.22 จุด ลดลง 82.48 จุด หรือ -1.54% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,383.28 จุด ลดลง 74.58 จุด หรือ -1.00%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าอย่างจีนและแคนาดา นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ยังสร้างแรงกดดันต่อหุ้นของบริษัทข้ามชาติ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,383.28 จุด ลดลง 74.58 จุด หรือ -1.00%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน”กอร์ดอน”ได้อ่อนกำลังลง และไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.15 ดอลลาร์ หรือเกือบ 1.7% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือเกือบ 1.2% ปิดที่ 77.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,201.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 14.22 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 784.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.3 ดอลลาร์ หรือเกือบ 0.7% ปิดที่ 961.20 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินปอนด์และยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) ขานรับความหวังที่ว่า การเจรจาเกี่ยวกับการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบ 5 เดือน
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.2898 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2856 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1623 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1579 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7185 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7178 ดอลลาร์สหรัฐ
หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 111.52 เยน จากระดับ 111.49 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3187 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3177 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9724 ฟรังก์ จากระดับ 0.9747 ฟรังก์