DRT มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 5% รับแผนอัพกำลังการผลิตเป็น 90%

DRT มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 5% หลังอัพกำลังการผลิตเป็น 90% มั่นใจรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 27%


นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,184.67 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทจะใช้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 85-90% จากปีก่อนที่ 80%

สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรกเนื่องจากเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของงานก่อสร้าง แต่อย่างไรก็ตามยังถือว่าดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเอกชนและผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ หลังจากภาครัฐได้เร่งดำเนินการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งหลายโครงการมีความชัดเจนและเริ่มดำเนินการได้แล้วตามแผนงาน เช่น การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายทางใหม่ๆ รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและการขยายตัวของเมืองในจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญๆ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้ดี โดยช่องทางจำหน่ายผ่านไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ขยายตัวได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านจัดสรรและทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ก็มีแผนลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวสูงขึ้น

“ในช่วงครึ่งปีแรกโดยปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัท โดยจะมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 60% ของเป้าหมายรายได้รวมทั้งหมด และในช่วงครึ่งปีหลังจะมีสัดส่วนอยู่ราว 40% แต่อย่างไรก็ตามถือว่ายังมีการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างมีการเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรที่ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้เรายังมีช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งและสามารถผลักดันการเติบโตได้ทุกช่องทาง โดยช่องทางลูกค้าโครงการและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่เป็นช่องทางที่เติบโตอย่างโดดเด่น ขณะที่ตลาดส่งออกและร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อยก็ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ” นายสาธิต กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 25-27% ได้ หลังจากบริษัทได้มีการปรับราคาขายสินค้าเฉลี่ยในปีนี้ขึ้น 3-4% สะท้อนราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับบริษัทมีการบริหาร Product Mix เพื่อบริหารสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Back to top button