สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 11 ก.ย. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิล ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นกว่า 2% อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่าจีนเตรียมขออนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,971.06 จุด เพิ่มขึ้น 113.99 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,887.89 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,972.47 จุด เพิ่มขึ้น 48.31 จุด หรือ +0.61%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ล่าสุดที่จีนเตรียมขออนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 375.31 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,970.27 จุด ลดลง 16.07 จุด หรือ -0.13% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,283.79 จุด เพิ่มขึ้น 14.16 จุด หรือ +0.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,273.54 จุด ลดลง 5.76 จุด หรือ -0.08%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย พร้อมกับจับตาการเจรจาการเจรจาระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษ ในกรณีที่อังกฤษเตรียมแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นอกจากนี้ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดเช่นกัน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,273.54 จุด ลดลง 5.76 จุด หรือ -0.08%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ และยังได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันในสหรัฐด้วยเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคน “ฟลอเรนซ์” รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 69.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 79.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและบรรดาประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกในระหว่างวัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,202.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 14.153 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 789.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 961.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.58 เยน จากระดับ 111.21 เยน แต่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9735 ฟรังก์ จากระดับ 0.9748 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3129 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3157 ดอลลาร์สหรัฐ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1585 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1596 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง แตะระดับ 1.3006 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3028 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7100 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7110 ดอลลาร์

Back to top button