สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 12 ก.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐเตรียมเจรจาการค้าครั้งใหม่กับจีน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิล แม้ทางบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone ใหม่ 3 รุ่นเมื่อวานนี้ก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,998.92 จุด เพิ่มขึ้น 27.86 จุด หรือ +0.11% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด หรือ +0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,954.23 จุด ลดลง 18.25 จุด หรือ -0.23%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด แม้มีรายงานล่าสุดว่าสหรัฐพยายามที่จะเจรจาการค้ากับจีนก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.5% แตะที่ระดับ 377.12 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,032.30 จุด เพิ่มขึ้น 62.03 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,332.13 จุด เพิ่มขึ้น 48.34 จุด หรือ +0.91% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,313.36 จุด เพิ่มขึ้น 39.82 จุด หรือ +0.55%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทผลิตบุหรี่ยาสูบ หลังจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ขู่ว่าจะห้ามการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า หากผู้ผลิตไม่หาทางควบคุมการสูบบุหรี่ดังกล่าวในกลุ่มวัยรุ่น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,313.36 จุด เพิ่มขึ้น 39.82 จุด หรือ +0.55%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน “ฟลอเรนซ์” ซึ่งจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐในวันศุกร์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 70.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 79.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,210.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 14.293 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 10.6 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 799.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 965.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “Beige Book” ซึ่งระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.23 เยน จากระดับ 111.58 เยน ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9700 ฟรังก์ จากระดับ 0.9735 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2987 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3129 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1631 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1585 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3055 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3006 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7177 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7100 ดอลลาร์สหรัฐ