สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 11 มิ.ย.58


– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 123.12/18 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1275 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1280/1290 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,514.81 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด, +0.72%

 

– นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าในช่วงสิ้นปีนี้เงินบาทมีโอกาสจะอ่อนค่าไปอยู่ที่ระดับ 34.25 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งมองว่าเป็นผลมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศเพิ่มเติมมากกว่าผลของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งติดต่อกัน

– น.ส.ปารีณา พ่วงศิริ ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุนอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ประเมินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากการลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้งติดต่อกันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วถึง 4.5% เมื่อเทียบกับสกุลเงินของคู่ค้า ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแทรกแซงค่าเงินจะส่งผลถึงภาคเศรษฐกิจจริงได้รวดเร็วและเป็นวงกว้างกว่า เนื่องจากมูลค่าตลาดส่งออกของไทยสูงกว่าตลาดสินเชื่อถึง 17 เท่า

– นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า อยู่ระหว่าง เจรจากับ 2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เพื่อตั้งกองทุนมาลงในหุ้นของตลาด mai โดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 4/58 จะเห็นกองทุนอย่างน้อย 1 กองทุน เพื่อทำให้นักลงทุนเล็งเห็นว่ากองทุนก็มีความสนใจเข้าลงทุนในหุ้น mai พร้อมกันนี้ทางตลาด mai ยังต้องการพัฒนาคุณภาพของตลาด ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

– คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยช่วง 5 เดือนแรกของปี 2558 (ม.ค.-พ.ค.) บีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแล้วจำนวน 1,094 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 391,720 ล้านบาท จำนวนโครงการปรับเพิ่มขึ้น 76% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีจำนวน 621 โครงการ

– ธนาคารโลก แนะธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากการฟื้นตัวที่ยังไม่เท่าเทียมกันของระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งความเสี่ยงต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับตลาดเกิดใหม่ในเร็วๆ นี้ เพราะการเคลื่อนไหวใดๆของเฟดที่เกิดขึ้นก่อนเวลาอันควรอาจจะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา

ทั้งนี้ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ลงเหลือ 2.7% จากการประเมินเมื่อเดือน ม.ค.ที่ระดับ 3.2% และยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากระดับ 3% ในเดือน ม.ค.

– สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยยอดค้าปลีกของจีนในเดือน พ.ค.ขยายตัว 10.1% เมื่อเทียบรายปีสู่ระดับ 2.42 ล้านล้านหยวน (3.96 แสนล้านดอลลาร์) และช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ยอดค้าปลีกขยายตัว 10.4% ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรา 5.9% ในเดือน เม.ย.

ส่วนการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.58 ปรับตัวขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี แตะ 3.23 ล้านล้านหยวน (5.2821 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)

– สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงทรงตัวที่ 10,960 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,187.1 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

– สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของฝรั่งเศสเดือน พ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือน เม.ย.

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button