STA วิ่งฉิว 7% นิวไฮรอบ 8 เดือน โบรกฯชี้แผนปรับโครงสร้างสู่ธุรกิจถุงมือยางดันกำไรโตแกร่ง
STA วิ่งฉิว 7% นิวไฮรอบ 8 เดือน โบรกฯชี้แผนปรับโครงสร้างสู่ธุรกิจถุงมือยางดันกำไรโตแกร่ง แนะ "ซื้อ" เป้า 15.50 บ. โดยล่าสุด ณ เวลา 10.22 น. อยู่ที่ระดับ 13.90 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 6.92% สูงสุดที่ระดับ 13.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 182.41 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ณ เวลา 10.22 น. อยู่ที่ระดับ 13.90 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 6.92% สูงสุดที่ระดับ 13.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 182.41 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงวันนี้ทำจุดสูงสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 15.20 บาท เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 61
ด้านนัเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น STA เป้าสูงสุด Consensus ที่ 15.5 บาท หลังเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจจากเป็นผู้ผลิตขั้นกลาง (วัตถุดิบจากผลิตภัณฑ์ยาง) ไปสู่ผลิตภัณฑ์ขั้นปลายน้ำ (ถุงมือยาง)ในสัดส่วนที่มากขึ้น ช่วยลดความผันผวนของรายได้และเพิ่มมาร์จิ้นให้สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมองว่าตลาดยังไม่ให้ Value จากธุรกิจดังกล่าว จึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อ
ด้านบล.เอเชีย เวลท์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น STA กำหนดราคาเป้าหมาย 15.50 บาท ในระยะปี 2561-2562 กลับมามุ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจถุงมือยางของ STA น่าจะเป็นกิจการที่ทำให้กลุ่มบริษัท STA มีกำไรที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากถุงมือยางมีการเติบโตของดีมานด์ที่ดีมาก คาดหวังว่าปีหน้ากำไรสุทธิจากธุรกิจถุงมือยางจะเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ของกำไรสุทธิทั้งหมดได้
ทั้งนี้ STA ปรับโครงสร้างธุรกิจหันไปสู่ธุรกิจถุงมือยางมากขึ้น โดย STA สามารถบริหารจัดการให้ธุรกิจหันมาอิงกับ Downstream Operations คือ ถุงมือยาง ทำให้ในช่วงปี 2561-2562 นี้ ความน่าสนใจของธุรกิจ STA อยู่ที่ธุรกิจถุงมือยาง จึงเชื่อว่าบริษัทยังทำกำไรจากธุรกิจถุงมือยางได้ดี ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำ
โดยผลประกอบการของ STA ในงวดครึ่งแรกปี 2561 มีกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นกำไรสุทธิที่มาจากธุรกิจยางแปรรูป 60% และธุรกิจถุงมือยาง 40% ของกำไรทั้งหมด ในขณะที่สัดส่วนรายได้รวมของ STA มาจากยางแปรรูปมากถึง 85% และถุงมือยางเพียง 15% การที่ STA เพิ่มไลน์สินค้าถุงมือยางที่มีมาร์จิ้นดีกว่าธุรกิจดั้งเดิมคือยางแปรรูปนั้น ทำให้ทิศทางกำไรของ STA ดีขึ้น ไม่เผชิญกับความผันผวนของราคายางพารามากเหมือนช่วง 2 ปีก่อน โดย STA ได้เตรียมแผนการเพิ่มกำลังการผลิตถุงมือยางเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับเป้าหมายจะมีกำไรจากธุรกิจถุงมือยางเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ของกำไรทั้งหมด และลดสัดส่วนกำไรจากธุรกิจแปรรูปยางจาก 60% เป็น 50%