สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดพุ่งขึ้นหลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิลและไมโครซอฟท์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,656.98 จุด พุ่งขึ้น 251.22 จุด หรือ +0.95% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,930.75 จุด เพิ่มขึ้น 22.80 จุด หรือ +0.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,028.23 จุด เพิ่มขึ้น 78.19 จุด หรือ +0.98%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.5% แตะที่ระดับ 382.63 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,326.48 จุด เพิ่มขึ้น 107.46 จุด หรือ +0.88%  ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,451.59 จุด เพิ่มขึ้น 57.85 จุด หรือ +1.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,367.32 จุด เพิ่มขึ้น 36.20 จุด หรือ +0.49%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,367.32 จุด เพิ่มขึ้น 36.20 จุด หรือ +0.49%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดราคาน้ำมันลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฉุดอุปสงค์น้ำมันในที่สุด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 32 เซนต์ หรือเกือบ 0.5% ปิดที่ 70.80  ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 78.70 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดแรงซื้อทองคำ และช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดที่เหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ติดต่อกันเป็นวันที่ 8

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,211.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ หรือ 0.18% ปิดที่ 14.305 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.30 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 834.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1044.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนไม่ได้รุนแรงมากเท่าที่คาดการณ์ไว์ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9595 ฟรังก์ จากระดับ 0.9670 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2911 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2917 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.46 เยน จากระดับ 112.25 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1775 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1674 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3267 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3145 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7290 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7265 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button