TMI รับปีนี้ยังขาดทุนหลังอัดเม็ดเงินลงทุนเพียบ จ่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าหวังดันผลงานปี62ฟื้น
TMI รับผลงานปีนี้ยังขาดทุนหลังอัดเม็ดเงินลงทุนเพียบ เล็งเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า-เพิ่มสินค้าใหม่หวังปี 62 พลิกฟื้น
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่าผลประกอบการในปีนี้จะยังมีผลขาดทุนอยู่ เนื่องจากเป็นช่วงปีที่บริษัทมีการลงทุนค่อนข้างมาก ประกอบกับ บริษัทได้ปรับแผนการจำหน่ายอุปกรณ์ให้แสงสว่างเข้าไปในกลุ่มค้าปลีก
อย่างไรก็ตามผลประกอบการครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก และผลขาดทุนจะค่อยๆ ลดลง จากครึ่งปีแรกที่มีผลขาดทุนราว 17.02 ล้านบาท เนื่องจากจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพขนาด 1.4 เมกะวัตต์เข้ามา และเป็นช่วงไฮซีซั่นของการจำหน่ายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
“ในปีนี้บริษัทคงต้องรับว่าผลประกอบการจะออกมาขาดทุนอยู่ เพราะปีนี้เรามีการลงทุนค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็แต่ยังเชื่อว่ารายได้จะสามารถทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 403.88 ล้านบาท โดยเชื่อว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะมีผลขาดทุนที่ลดลง และรายได้เติบโตค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น และเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้ามาบางส่วน”นายธีระชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 62 จะเริ่มกลับมามีกำไร โดยบริษัทได้เน้นการขายอุปกรณ์ให้แสงสว่างไปยังกลุ่มค้าปลีกมากขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าดังกล่าวจะมาจากกลุ่มอุตสาหกรรม 60% จากเดิม 80% และมาจากค้าปลีก 40% จากเดิมที่ 20% โดยบริษัทเตรียมเพิ่มสินค้าในกลุ่มค้าปลีกอีก 30 รายการ จากเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด 300 รายการ เนื่องจากมองว่าตลาดนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีความนิยมมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มเป็น 50% จากปีนี้ที่เข้ามายังไม่มาก โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมีกำลังการผลิตเป็น 50 เมกะวัตต์ ในปี 63-64 ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าทั้ง ไบโอแก๊ส ไบโอแมส และพลังงานแสงอาทิตย์ 1-2 ดีล คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงต้นปี 62 นี้
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงติดตามความชัดเจนของการเปิดให้เข้ายื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ภาครัฐจะประกาศออกมา ซึ่งบริษัทมีการศึกษาและเตรียมพร้อมที่จะเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ในมือราว 80 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.17 เท่า ขณะที่มีสถาบันทางการเงินที่พร้อมให้การสนับสนุนการลงทุนของบริษัทด้วย