สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 25 ก.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่กระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งอ่อนไหวต่อการค้าระหว่างประเทศนั้น ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,492.21 จุด ลดลง 69.84 จุด หรือ -0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,915.56 จุด ลดลง 3.81 จุด หรือ -0.13% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,007.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.22 จุด หรือ +0.18%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงผลการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.5% แตะที่ระดับ 383.89 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,374.66 จุด เพิ่มขึ้น 23.84 จุด หรือ +0.19% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,479.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.93 จุด หรือ +0.05% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.56 จุด เพิ่มขึ้น 49.15 จุด หรือ +0.66%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่หุ้นเน็กซ์ ผู้จำหน่ายเสื้อผ้ารายใหญ่ พุ่งขึ้นกว่า 7% ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.56 จุด เพิ่มขึ้น 49.15 จุด หรือ +0.66%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง อันเนื่องมาจากการที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน พร้อมกับกดดันให้ประเทศต่างๆระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 72.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 81.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงผลการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,205.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.2 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 14.493 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 822.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,053.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) ก่อนที่ตลาดจะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ยูโรพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนจะสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB กำลังเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1767 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1758 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3186 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3118 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7249 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.93 เยน จากระดับ 112.71 เยน ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9649 ฟรังก์ จากระดับ 0.9632 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2950 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2940 ดอลลาร์แคนาดา