สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 26 ก.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ แถลงการณ์ของที่ประชุมเฟดยังได้ตัดข้อความ “จุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดยังคงมีความผ่อนคลาย” ซึ่งเป็นข้อความที่มักปรากฏในแถลงการณ์ของเฟดในช่วงที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,385.28 จุด ลดลง 106.93 จุด หรือ -0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,905.97 จุด ลดลง 9.59 จุด หรือ -0.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,990.37 จุด ลดลง 17.10 จุด หรือ -0.21%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรปในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นประมาณ 0.3% ปิดที่ 385.06 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,385.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด หรือ +0.09% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,512.73 จุด เพิ่มขึ้น 33.63 จุด หรือ +0.61% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,511.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของอังกฤษ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,511.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด หรือ +0.05%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์น้ำมันของอิหร่านอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ใช้เวทีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) กดดันชาติพันธมิตรให้ร่วมคว่ำบาตรอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 71 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 71.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 81.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่เฟดจะแถลงมติการประชุม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,199.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.2 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 14.401 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 829.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,063.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ และยังได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกในการประชุมเดือนธ.ค.
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9650 ฟรังก์ จากระดับ 0.9649 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3002 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2950 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 112.83 เยน จากระดับ 112.93 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1762 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1767 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ1.3184 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3186 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7276 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7249 ดอลลาร์สหรัฐ