น้ำมันดิบปิดวานนี้ปรับลง ตลาดวิตกอุปทานล้นตลาด-ดอลล์แข็งค่า

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปี


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดวานนี้ (12 มิ.ย.) ที่ 59.96 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ตลอดสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.4% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 63.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งสัปดาห์ น้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.9%

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานตลาดน้ำมันซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ซาอุดิอาระเบีย อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างก็เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายเดือนขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลให้การผลิตน้ำมันของโอเปกยังคงเกินเพดานที่กำหนดไว้

โดยโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 31.33 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2555 และมากกว่าเป้าหมายที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเดือนที่สามติดต่อกันแล้ว

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสก็เป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมันเช่นกัน โดยการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้น้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นและมีความน่าดึงดูดใจลดลงสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ด้านรายงานจากเบเกอร์ ฮิวจส์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลน้ำมัน ระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง 7 แท่น มาอยู่ที่ 635 ในสัปดาห์ล่าสุด

Back to top button