สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 4 ต.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบ 7 ปี หลังจากประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,627.48 จุด ร่วงลง 200.91 จุด หรือ -0.75% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,879.51 จุด ลดลง 145.57 จุด หรือ -1.81% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,901.61 จุด ลดลง 23.90 จุด หรือ -0.82%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ระดับ 379.68 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,410.85 จุด ลดลง 80.55 จุด หรือ -1.47% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,418.34 จุด ลดลง 91.94 จุด หรือ -1.22% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,244.14 จุด ลดลง 43.44 จุด หรือ -0.35%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาข้อตกลงระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,418.34 จุด ลดลง 91.94 จุด หรือ -1.22%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยการผลิตน้ำมันที่ลดลงจากอิหร่าน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.08 ดอลลาร์ หรือ 2.72% ปิดที่ 74.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,201.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 14.59 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 824.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.50 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1045.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนในช่วงแรก ขานรับการทะยานขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.86 เยน จากระดับ 114.33 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ  0.9915 ฟรังก์ จากระดับ 0.9898 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2923 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2841 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1513 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1517 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3023 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2975 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7074 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button