SYNEX บวกกว่า 3% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 19บ. คาดรายได้โต หนุนกำไรไตรมาส 3/61 แตะ 220 ลบ.
SYNEX บวกกว่า 3% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้า 19บ. คาดรายได้โต หนุนกำไรไตรมาส 3/61 แตะ 220 ลบ. โดย ณ เวลา 15.21 น. อยู่ที่ 15 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 15.10 บาท ต่ำสุดที่ 14.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 33.92 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ล่าสุด ณ เวลา 15.23 น. อยู่ที่ 15 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 15.10 บาท ต่ำสุดที่ 14.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 33.92 ล้านบาท
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ต.ค.) แนะนำ “ซื้อ” SYNEX ราคาเป้าหมาย 19 บาท/หุ้น โดยคาดไตรมาส 3/61 กำไรสุทธิเท่ากับ 220 ลบ. จากยอดขาย smartphone และกลุ่ม Gaming ยังเป็นส่วนช่วยให้ยอดขายโตและสร้าง product mix ที่แข็งแกร่ง บนอัตรากำไรที่ฟื้นสู่ระดับปกติหลังไตรมาสก่อนถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเร็ว มองโมเมนตัมกำไรจะไปต่อได้ในไตรมาส 4/61 ที่เป็น High season จะโดดเด่นอย่างมากหลังเริ่มขายสินค้าใหม่ทั้ง iPhone,iWatch (Apple) และ Mate20 (Huawei) คงคำแนะนำ “ซื้อ” บนราคาเหมาะสม 19.00 บาท/หุ้น อิง P/E 17.8X จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี +0.5SD
โดยมองงวดไตรมาส 3/61 ยอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน ,เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน เท่ากับ 9,620 ล้านบาท ด้วย product mix ที่ยังมาแรงทั้ง High-performance notebook, smartphone และกลุ่มที่ดีต่อ margin อย่าง gaming gear (GPM ราว 7-10% vs ค่าเฉลี่ย 5%)
ขณะที่กำไรขั้นต้นกลับมาอยู่ในระดับปกติ 4.7% เพิ่มขึ้น 61bps จากไตรมาสก่อน ฟื้นตัวหลังโดนผลกระทบจากเงินบาทอ่อนค่าเร็วในไตรมาส 2/61 ซึ่งเป็นปัจจัยหลักทำให้งบออกมาต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจาก BAF จะกลับมาอยู่ที่ราว 6-7 ล้านบาท หลังขาดทุนจากบันทึกด้อยค่าความนิยมย้อนหลังในไตรมาสก่อน เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 ที่ 220 ล้านบาท
อีกทั้ง มองกำไรสุทธิไตรมาส 4/61 พร้อมจะทำ All-time high มาจาก เข้าสู่ช่วง High season ของการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้ง เป็นไตรมาสแรกที่ได้ขาย iPhone รุ่น flagship (XR,XS,XS max) และผลิตภัณฑ์อื่นๆครบทุกสายที่เปิดตัวในรอบล่าสุด ซึ่งจะออกขายจริงในช่วง ต.ค.-พ.ย. รวมถึงแรงหนุนจาก Huawei Mate 20 series ที่จะเปิดตัวช่วงกลาง ต.ค. นี้ (SYNEX เป็น Huawei exclusive distributor ในไทย คิดเป็น 30% ของรายได้รวม) เราคาดกำไรสุทธิปี 2561 เท่ากับ 824 ลบ. เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน (ครึ่งปีแรก 2561 มีกำไรสุทธิในมือแล้ว 371 ลบ. คิดเป็น 45% จากเป้ากำไรของ MBKET)
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาจะฟื้นขึ้นมาเป็นปกติสู่ระดับเดียวกับก่อนการรายงานงบไตรมาส 2 แต่นับว่ายังไม่ได้ปรับขึ้นเลยหากเทียบกับราคา ณ ต้นปี (YTD) ยังไม่สะท้อนแนวโน้มกำไรที่พร้อมจะทำจุดสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4/61-2562 คงคำแนะนำ “ซื้อ”บนราคาเหมาะสม 19.00 บาท/หุ้น อิง P/E 17.8X จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี +0.5SD