สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 9 ต.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 อีกทั้งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐและจีนในปี 2562 อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงเคลื่อนไหวในระดับที่สูงมาก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,430.57 จุด ลดลง 56.21 จุด หรือ -0.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,880.34 จุด ลดลง 4.09 จุด หรือ -0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,738.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.07 จุด หรือ +0.03%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (EU) อาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในวันจันทร์หน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 372.93 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,977.22 จุด เพิ่มขึ้น 30.06 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.26 จุด หรือ +0.06% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,318.55 จุด เพิ่มขึ้น 18.31 จุด หรือ +0.35%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (EU) อาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในวันจันทร์หน้า

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.26 จุด หรือ +0.06%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น 0.9% เมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า อิหร่านเริ่มลดการส่งออกน้ำมันก่อนที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรครั้งใหม่ในเดือนหน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข่าวการปิดแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน “ไมเคิล”

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 74.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 85.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1,191.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.1 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 14.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 10.6 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 828.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1062.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (EU) อาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในวันจันทร์หน้า ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3146 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3089 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ  1.1497 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1488 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7100 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7078 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9921 ฟรังก์ จากระดับ 0.9926 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2944 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2961 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 113.04 เยน จากระดับ 112.98 เยน

Back to top button