“ซีจีเอส–ซีไอเอ็มบี” ชี้ SET บ่ายเสี่ยงดิ่งโลว์เก่า 1,660 จุด แนะกลุ่มแบงก์-อิเล็กฯน่าสอย

“ซีจีเอส–ซีไอเอ็มบี” ชี้ SET บ่ายเสี่ยงดิ่งโลว์เก่า 1,660 จุด แนะกลุ่มแบงก์-อิเล็กฯน่าสอย


นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Equity Derivative บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส–ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ ”ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ในรายการ “Stock News Update : Mid-Day Report” ออกอากาศทางข่าวหุ้นทีวีออนไลน์  ถึงแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในภาคบ่ายว่า หากนักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลต่อภาวะตลาดฯ ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเก่าที่ระดับ 1,660 จุดได้ เชื่อว่ามีโอกาสที่ในวันพรุ่งนี้ดัชนีจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีก

สำหรับปัจจัยที่เข้ามากดดันตลาดหุ้นของสหรัฐฯ มาจากเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่งเป็นปัจจัยที่มีการรับรู้มาก่อนแล้ว ประกอบกับแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯที่เข้ามากดดันเพิ่มเติม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นภาวะชั่วคราวที่ทำให้ตลาดฯมีความผันผวน ส่งผลให้ตลาดหุ้นในประเทศไทยรับรู้ปัจจัยที่ไม่ดีจากภาคต่างประเทศ

ขณะเดียวกันในสัปดาห์หน้า บริษัทกลุ่มธนาคารจะเริ่มรายงานผลประกอบการ ขณะที่ช่วงสิ้นเดือนจะเป็นในรายของบริษัทกลุ่มพลังงาน โดยรวมจะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีปัจจัยลบเหมือนในต่างประเทศ เชื่อว่าจะสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้หากตลาดหุ้นในต่างประเทศคืนนี้ไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เลวร้ายมากนัก โดยคาดการณ์ว่าหากยังไม่มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามากดดันเพิ่มเติม ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวลงไปทดสอบที่ระดับ 1,660 จุด และจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเพื่อเก็งกำไรรีบาวด์กลับในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ให้จับตาการดีดตัวกลับของดัชนีตลาดหุ้นไทยครั้งนี้ หากดีดตัวกลับไปไม่เกิน 1,695 จุด จะเป็นเพียงการดีดตัวกลับตามเทคนิคเท่านั้น แต่หากทะลุ 1,700 จุดขึ้นไปได้ มีลุ้นที่จะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,720 จุด ถือเป็นระดับที่เหมาะสม

ส่วนหุ้นที่น่าสนใจในภาคบ่าย หากวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐาน นายธีรวุฒิ มองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารมีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดฯและดัชนีดีดตัวกลับเร็ว โดยแนะนำหุ้น BBL และ KBANK นอกจากนี้ ได้แนะนำหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือพันธบัตรของสหรัฐฯมากขึ้น ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าจะอ่อนตัวลงในระยะสั้น พร้อมกับแนะนำ KCE ที่มีความน่าสนใจจากงบไตรมาส 3/61 ที่คาดว่าจะออกมาโดดเด่น คาดว่ากำไรปีนี้เติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าและต้นทุนที่ลดลง โดยมองว่าเป็นจังหวะซื้อสวนตลาดขึ้นไป เชื่อว่าจะมีผลตอบแทนที่ดี

ขณะที่หุ้นยอดนิยมในกลุ่มพลังงานอย่าง IVL นายธีรวุฒิ ระบุว่ามีการปรับตัวลงมาก่อนหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน จากสเปรดของปิโตรเลียมและปิโตรเคมีในตลาดเอเชียที่ลดลงอย่างชัดเจน คาดว่ายังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม โดยแนะนำเป็น PTTEP จะเป็นตัวเลือกในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้ เนื่องจากการประกาศงบที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ประกอบกับผลการประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกช ทำให้หุ้นมีโอกาสที่จะดีดตัวกลับ และไปขายเก็งกำไรหลังจากประกาศผู้ชนะการประมูลแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ PTT ปรับตัวลงจากข่าวที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานคัดค้านการที่ GPSC จะเข้าซื้อกิจการของ GLOW แต่มองว่ามีมุมที่น่าสนใจเนื่องจาก GPSC จะไม่ต้องเพิ่มทุนในการทำธุรกิจของ GLOW เชื่อว่าพอจะเล่นระยะสั้นได้ แตะแนะนำให้เล่นหุ้นกลุ่มที่ดัชนีปรับตัวขึ้นลงแรงกว่าตลาด ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จะเหมาะสมที่สุด

Back to top button