ORI ไดลูทฯหนัก 33% หลังขึ้น XD จ่ายปันผลเป็นหุ้นสัดส่วน 2:1
ORI ไดลูทฯหนัก 33% หลังขึ้น XD จ่ายปันผลเป็นหุ้นสัดส่วน 2:1 ล่าสุด ณ เวลา 11.18 น. อยู่ที่ระดับ 11.40 บาท ปรับตัวลดลง 5.60 บาท หรือ 32.94% สูงสุดที่ระดับ 11.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 89.96 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ล่าสุด ณ เวลา 11.18 น. อยู่ที่ระดับ 11.40 บาท ปรับตัวลดลง 5.60 บาท หรือ 32.94% สูงสุดที่ระดับ 11.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 89.96 ล้านบาท
โดยในวันนี้ราคาหุ้นมีจุดซื้อขายสูงสุด (Ceiling) ที่ 14.70 บาท และมีราคาซื้อขายต่ำสุด (Floor ) ของวันที่ 7.95 บาท หลังจากขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) จ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสด โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผล งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2561 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2561 และกำไรสะสม เป็นหุ้นปันผลและเงินสด โดยอัตราการจ่ายหุ้นปันผล 2 หุ้นเดิม : 1 หุ้นปันผล อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.04 บาทต่อหุ้น อัตราการจ่ายปันผลรวม 0.29บาทต่อหุ้น วันที่จ่ายปันผล 31 ต.ค. 2561
อนึ่งการปรับตัวลดลงอย่างหนักถึง 32% ในวันนี้เป็นผลมาจากการจ่ายปันผลเป็นหุ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีหุ้นเข้ามาในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็น Dilution Effect ถึง 33% ส่งผลให้ ORI จึงมีราคาต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 7.95 บาท เนื่องจากหุ้นปันผลที่เพิ่มขึ้นมาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงได้เกิน 30% เพื่อให้ราคาหุ้นสะท้อนจำนวนหุ้นจดทะเบียนที่จะเข้ามาใหม่
ด้าน บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ “ซื้อ” ORI ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท/หุ้น โดยคาดว่าวันนี้ราคาหุ้นปรับลงตามการ XD หุ้นปันผลในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และปันผลเงินสดที่ 0.40 บาท และเมื่อคำนวณตามสูตรแล้วจะได้ราคาปิดหลังปรับปรุงที่ 11.07 บาท ด้านราคาพื้นฐานเดิมที่ 23.40 บาท หลังปรับปรุงการ XD จะได้ราคาที่ 15.33 บาท
สำหรับสถานะ ORI ในปัจจุบัน คาดว่าจะบรรลุเป้าขาย (Presales) ปีนี้ที่ 24 พันล้านบาท (ก่อนหน้าปรับขึ้นมา 20% จากเป้าแรก) ได้ไม่ยาก เพราะยอดขาย 9 เดือนแรกของปี 61 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท หลังล่าสุดประสบความสำเร็จการขาย พาร์ค ออริจิ้น พญาไท ได้ถึง 72% และพ.ย.61 จะเปิดขายพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ซึ่งคาดว่าจะทำยอดขาย surprise ในทางบวกคือ ขายได้มาก เนื่องจากมีการขายยังต่างประเทศแล้วส่วนหนึ่ง แม้ยอดขายแนวราบจะที่เปิดขาย 4 โครงการใหม่จะไม่น่าตื่นเต้นนัก เพราะติดฤดูฝนที่ยาวนาน ทำให้ยอดการเยี่ยมชมโครงการชะลอลง
ด้านผลกระทบจากเกณฑ์ธปท.การปล่อยสินเชื่อใหม่ สำหรับคอนโดราคาขายเกิน 10 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นสัดส่วน 10% ของทั้งพอร์ตสินค้า และสัดส่วนการซื้อเพื่อลงทุนและเก็งกำไรจะไม่เกิน 20% ของยอดรวม จึงคาดว่าจะได้รับผลลบบ้างในปี 62 โดยเดิมทีบริษัทเก็บเงินดาวน์ที่ 15-20% แต่เพื่อแก้ปัญหาจากนี้ไปจะให้ดาวน์ที่ 20%
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ คาดว่าอัตราการเติบโตกำไรหลักต่อหุ้นปีนี้โดดเด่นในกลุ่มที่อยู่อาศัยเป็น 129% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ส่วนปี 62 เติบโตเพียง 2% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน แม้ยอดเงินกำไรหลักโต 15% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ทั้งนี้เป็นเพราะได้เผื่อให้ ORI-W1 ซึ่งจะแปลงครั้งแรกได้ พ.ย.61 แปลงเข้ามาในปี 62 ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 406.5 ล้านหน่วย แต่เนื่องจากราคาใช้สิทธิ์สูงเป็น 20.00 บาท และหลัง XD ปรับเป็น 13.3333 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันอยู่พอควร จึงมีโอกาสจะแปลงน้อยกว่าคาด ทำให้อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นปี 62 ดีขึ้น โดยวอร์แรนท์หมดอายุ 30 ก.ย.63
โดยคาดว่าราคาหุ้นได้ตอบรับในทางลบเรื่องเกณฑ์ธปท.ไปพอควรแล้ว แต่ต้องติดตามว่าหลัง ธปท.ทำ Hearing เสร็จ จะมีการผ่อนคลายเกณฑ์ใดบ้าง ก็จะกลับมาเป็นประเด็นในทางบวกได้