ARIP พุ่งกระฉูด 15% แรงในรอบ 6 เดือน คาดเก็งฯกำไรหุ้นเล็ก-แผนธุรกิจปีนี้โดดเด่น
ARIP พุ่งกระฉูด 15% แรงในรอบ 6 เดือน คาดเก็งฯกำไรหุ้นเล็ก-แผนธุรกิจปีนี้โดดเด่น โดย ณ เวลา 12.25 น.อยู่ที่ระดับ 0.62 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 14.81% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 17.17 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP ณ เวลา 12.25 น.อยู่ที่ระดับ 0.62 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 14.81% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 17.17 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งแรงในรอบ 6 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นขึ้นไปทดสอบระดับ 0.62 บาท เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2560
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี (ARIP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 162.68 ล้านบาท เนื่องจากทุกธุรกิจของบริษัทยังมีการเติบโตที่ดี
บริษัทมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจอีเว้นท์ คิดเป็น 60% ของรายได้รวม โดยการจัดงานอีเว้นท์ หรืองานคอมมาร์ตในปีนี้ยังคงเหมือนกับทุกๆปี ที่จะจัดขึ้นจำนวน 3 ครั้งต่อปี แบ่งเป็นไตรมาสที่ 1, 2 และ 4 ซึ่ง 2 ครั้งที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างมาก ขณะที่บริษัทรับจัดงานอีเว้นท์ให้กับทางภาครัฐน้อยลง เนื่องด้วยมีข้อกำหนดที่จำกัดและมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ต่ำ อีกทั้งบริษัทมีนโยบายเลือกรับงานที่มีมาร์จิ้นสูง
ด้านธุรกิจสื่อ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 20% ประกอบด้วย สื่อนิตยสารและสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจให้บริการสื่อดิจิทัล ที่คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ 20% ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง โดยที่ผ่านมาฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้น
นายพรชัย กล่าวอีกว่า บริษัคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 จะเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทุกไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้จัดงานคอมมาร์ตส่งท้ายปีที่ยิ่งใหญ่ “COMMART WORK 2018 (คอมมาร์ต เวิร์ก 2018)” ระหว่างวันที่ 1-4 พ.ย.61 วางงบลงทุนราว 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นทั้งการจัดงานส่งท้ายปีและส่งท้ายการใช้สถานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท หรือเติบโต 8-10% จากปีก่อนที่ 2.8 พันล้านบาท โดยสินค้าที่จะเป็นตัวผลักดันยอดขายในงานนี้ยังคงเป็นโน้ตบุ๊กเป็นหลัก หรือคิดเป็นสัดส่วน 50% รองลงมาคือ คอมพิวเตอร์ DIY 25% และที่เหลือจะเป็น Accessories ต่างๆ
การจัดงานครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากแบรนด์ไอทีชั้นนำของไทยที่จะนำสินค้าเข้าร่วมภายในงาน เช่น Advice,Asus,Banana IT,Dell,Epson,HomePro,The Power,Intel,IT City,J.I.B,Lenovo,MSI,SPVi,Speed Computer,SVOA และเครดิตบูโร เป็นต้น โดยจุดเด่นในงานคือ การแข่งขันอีสปอร์ตหลายรายการ เช่น การชิงแชมป์ตัวแทนประเทศไทยไปแข่งชิงแชมป์โลก รวมถึงผู้ที่มองหาสินค้าบริการด้านไอที ไม่ว่าจะเพื่อใช้ในการทำงาน ทำธุรกิจ การเรียนหรือแม้แต่ความบันเทิง งานนี้มีให้เลือกสรรค์ครบครันทุกหมวดทุกแบรนด์ และยังมาพร้อมกับข้อเสนอที่คุ้มค่าสมการรอคอยแน่นอน
สำหรับภาพรวมตลาดไอทีปี 61 คาดว่าจะเติบโตได้ 8% โดยจะมียอดขายคอมพิวเตอร์ซีพีรวมประมาณ 2.4 ล้านเครื่อง ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือมีสัดส่วนของโน๊ตบุ๊กและเดสก์ท็อปอย่างละ 50% ส่วนทิศทางตลาดปี 62 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปัจจัยสำคัญคือเกมและอีสปอร์ต ซึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมอย่างจริงจังของหลายภาคส่วน เช่น ภาครัฐบาล โดย,uการผลักดันให้อีสปอร์ตเป็นกีฬารูปแบบใหม่ ประกอบกับมีการจัดแข่งขันทัวร์นาเมนต์ที่มีการอัดฉีดเงินรางวัลสูงขึ้นเรื่อยๆ
ที่น่าจับตามองคือการเปิดตัวสนามแข่งขันอีสปอร์ตทั่วประเทศ ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนด้านระบบฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ครบครัน เพื่อดึงดูดผู้เล่น เป็นแรงกระตุ้นตลาดไอทีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเกมและอีสปอร์ตโต ไม่เพียงแค่ในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แต่ยังเกิดการพัฒนาบุคลากรให้กับวงการเกมด้วย โดยคาดว่าปี 62 จะมีผู้เล่นอีสปอร์ตมากกว่า 40 ล้านคน จึงเป็นโอกาสในการขยายตัวของตลาดไอทีไทย
“เรามองตลาดไอทีปีนี้น่าจะโต 8% และปีหน้าโต 10% โดยมีปัจจัยมาจากการเลือกตั้ง นวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะมีการเปลี่ยนรุ่นในปีหน้า โดยเฉพาะอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ที่จะมีการเปลี่ยนรุ่นทุกๆ 3 เดือน อย่างไรก็ตามก็จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในปีหน้าของบริษัทเติบโตตามไปด้วย”นายพรชัย กล่าว