“โนมูระฯ” ฟันธงกำไร SEAFCO ไตรมาส 3 ทุบสถิติออลไทม์ไฮหลังตุนแบ็กล็อกแน่น เคาะเป้า 11.8 บ.

"โนมูระฯ" ฟันธงกำไร SEAFCO ไตรมาส 3 ทุบสถิติออลไทม์ไฮหลังตุนแบ็กล็อกแน่น เคาะเป้า 11.8 บ.


บล. โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 11.8 บาท จากแนวโน้มปริมาณงานเสาเข็มของทั้งภาครัฐ (โครงสร้างพื้นฐาน EEC) และเอกชนที่เร่งตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนวงจรการลงทุนยังเดินหน้า พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นอิงมูลค่าพื้นฐานปี 2562 ที่ 11.8 บาทต่อหุ้น (ปรับขึ้น 4%) แต่ราคาเป้าหมายอิงค่าพีอีเรโช(PE) เพียง 23 เท่าหรือที่ +1SD (เดิม 29 เท่า, +2SD) จากฐานกำไรสูงมากในปีนี้

โดยประเมินการเติบโตของกำไรใน 2 ปีข้างหน้า (2562 – 2563) ต่ำเพียง 2.5% จึงปรับ PE ลงเพื่อสะท้อนการเติบโตในอัตราต่ำและ Margin ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว พร้อมกับคาดกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 345.5 ลบ. มากกว่าตลาดคาด 7% ที่ 322 ลบ.

สำหรับฐานกำไรจะอยู่ในระดับสูงไปจนถึงไตรมาส 1 ปี 2562 คาดราคาหุ้นจะ Outperform ตลาดขึ้นต่อได้สอดคล้องกับประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 3/61 ถึง ไตรมาส 1/62 ที่จะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกันตาม Backlog รับรู้รายได้โครงการ One Bangkok และรถไฟฟ้าสีส้ม คงคำแนะนำซื้อ รับฐานกำไรไตรมาส 3/61 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 97.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 5% จากไตรมาสที่แล้ว จากอานิสงค์รับรู้รายได้งานเสาเข็มโครงการ One Bangkok และงานกำแพงกันดินของรถไฟใต้ดินสายสีส้มเต็มไตรมาส ประกอบกับ เริ่มรับรู้รายได้งานรถไฟฟ้าสายสีชมพูราว 2 เดือนในไตรมาสนี้ หนุนรายได้รวมทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องอีกครั้งที่ 721 ลบ. เพิ่มขึ้น 71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 9% จากไตรมาสที่แล้ว หลังมีรายได้ส่วนเพิ่มจากงานรถไฟฟ้าสีชมพู และคาด GPM ใกล้เคียงเดิมที่ 23.3% (ไตรมาส 2 ปี 61 อยู่ที่ 23.4%) และ NPM ที่ 13.6% (ไตรมาส 2 ปี 61 อยู่ที่ 14.1%) ในขณะที่ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.9 พันลบ. Secure รายได้ส่วนใหญ่ในแต่ละไตรมาสจนถึงไตรมาส 1 ปี 62

อย่างไรก็ตาม หากกำไรออกมาตามคาด จะส่งผลให้ 9 เดือนแรกปี 2561 มีกำไรรวมสูงถึง 243.6 ลบ. หรือเท่ากับ 92.5% ของประมาณการกำไรทั้งปีเดิม (263.1 ลบ.) ทำได้ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก จึงปรับประมาณการปี 2561, 2562, 2563 ขึ้น 28%, 17%, 10% ตามลำดับ สะท้อนรายได้รวมที่มากกว่าคาดและอัตรากำไรโดยรวมของอุตสาหกรรมยังเด่น

ขณะเดียวกัน จากฐานกำไรที่สูงมากในปี 2561 จึงประเมินว่าในปี 2562 บริษัทจะรักษาฐานกำไรระดับสูงไว้ได้แต่ จะเติบโตต่ำ เพิ่มขึ้นเพียง 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากงาน One Bangkok ( 2 เฟสแรก) และรถไฟสายสีส้มจะส่งมอบแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2562 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่และอัตรากำไรสูง จึงประเมินว่ามีโอกาสน้อยที่บริษัท จะสามารถหาโครงการขนาดใหญ่แห่งใหม่, อัตรากำไรสูงมาทดแทนได้ และรับรู้ในระยะยาว 9-12 เดือน ซึ่งเรายังไม่เห็นโครงการดังกล่าวที่มีศักยภาพมาทดแทนได้

ขณะที่ ราคาหุ้น SEAFCO ปิดตลาดวันนี้( 16 ต.ค. 61) อยู่ที่ระดับ 9.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง สูงสุดที่ 9.85 บาท ต่ำสุดที่ 9.65 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50.67 ล้านบาท

Back to top button