วิตกเจรจาหนี้กรีซชะงักฉุดดาวโจนส์ปิดวานนี้ร่วงกว่า 100 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การเจรจาที่ชะงักงันระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปนั้น อาจส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และบั่นทอนเสถียรภาพของยูโรโซน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (15 มิ.ย.) ที่ 17,791.17 จุด ร่วงลง 107.67 จุด หรือ -0.60%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,029.97 จุด ลดลง 21.13 จุด, -0.42% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,084.43 จุด ลดลง 9.68 จุด หรือ -0.46%
นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้น หลังจากกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปไม่สามารถตกลงกันได้ในการเจรจาครั้งล่าสุดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ
การเจรจายังไม่มีความคืบหน้าเช่นนี้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ และอาจจะบั่นทอนเสถียรภาพของยูโรโซน โดยในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เงินช่วยเหลือก้อนปัจจุบันของกรีซจะหมดอายุลง และในวันเดียวกัน รัฐบาลกรีซจะต้องชำระเงินกู้ราว 1.5 พันล้านยูโร (1.69 พันล้านดอลลาร์) คืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูการประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ในวันพฤหัสบดีนี้ที่ลักเซมเบิร์ก ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่โครงการให้ความช่วยเหลือกรีซของสหภาพยุโรป (EU) จะสิ้นสุดลงในในเดือนนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% โดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1.1% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 3.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ขณะที่หุ้นแซนดิสก์ ร่วงลง 2.9% และหุ้นเทราดาต้า คอร์ป ดิ่งลง 2.8% หุ้นเนทฟลิกซ์ ปรับลง 1.1% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง วางแผนจะให้บริการแนวใหม่ คือ Tmall Box Office ซึ่งคล้ายคลึงกับการให้บริการของเนทฟลิกซ์ และ HBO
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงไตรมาส 1/2558, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนมิ.ย.เฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ โดยการประชุมวันแรกจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ เพื่อจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่