นาทีทอง! ช็อป 41 หุ้น SET100 ของดีราคาถูก ชู P/E-P/BV ต่ำ
นาทีทอง! ช็อป 41 หุ้น SET100 ของดีราคาถูก ชู P/E-P/BV ต่ำ นำโดย SIRI,AAV,TCAP,KTB,BCP และ BBL
ภาวะตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนถึงล่าสุดนับว่าปรับตัวลงแรงมากถึง 116.14 จุด โดยเทียบจากดัชนียืนที่ระดับ 1760.47 จุด (1ต.ค.61) มาอยู่ที่ระดับ 1644.33 จุด (25 ต.ค.61) หรือลดลง 6.59% เนื่องจากภาวะตลาดรับแรงกดดันจากปัจจัยในต่างประเทศ อาทิ รับผลกระทบจาก Trade war และดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ปัจจัยลบเดิมทั้งความสัมพันธ์สหรัฐ-ซาอุฯยังตึงเครียด, เศรษฐกิจอิตาลีมีแนวโน้มสั่นคลอนหลัง EU คว่ำร่างงบประมาณที่อิตาลีเสนอยังกดดันเป็นต้น
อย่างไรก็ตามภาวะดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นไทยมีแรงเทขายออกมาอย่างหนักในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นบลูชิพ หรือหุ้นบิ๊กแคป ซึ่งราคาส่วนใหญ่ปรับตัวลงแรงจนเกินพื้นฐาน และที่สำคัญอ่อนตัวลงอยู่ในโซน Oversold หรือเข้าเขตขายมากเกินไป
ดังนั้น“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”จึงทำการสำรวจราคาหุ้น SET100 มานำเสนอโดยครั้งนี้คัดเลือกเฉพาะหุ้นที่ P/E Ratio(อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น)ต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.04 เท่า ณ วันที่ 24 ต.ค.61 โดยหุ้นที่เข้ามาติดในเกณฑ์ดังกล่าวทั้งหมด 41 ตัว
ที่น่าสนใจมีหุ้นทั้ง 41 ตัวยังมีหุ้นที่ P/BV (Price/Book Value) ไม่เกิน 1 เท่า ณ วันที่ 24 ต.ค.61 และราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชีมานำเสนอให้นักลงทุน โดยหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 6 ตัว อาทิ SIRI,AAV,TCAP,KTB,BCP และBBL ดังตารางนำมาประกอบ
ทั้งนี้โดยทั่วไปหุ้นที่มี P/E ratio สูงหมายถึงว่าเรายอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อหุ้นตัวนี้เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นอีกตัวนึงที่มี P/E ต่ำกว่า ดังนั้นหลายคนมักจะบอกว่า หุ้นที่มี P/E ratio สูงๆ คือหุ้นที่แพง และหุ้นที่มี P/E ratio ต่ำๆ คือหุ้นที่ถูก ดังนั้นการซื้อหุ้นที่มีราคาถูกน่าจะมีโอกาสกำไรมากกว่าซื้อหุ้นที่แพง ส่วนค่า P/BV (Price/Book Value) ตัวเลขมาตรฐานที่มักจะใช้เป็นฐานก็คือ 1 เท่า หากสามารถซื้อหุ้นที่มีค่า P/BV น้อยกว่า 1 ได้ก็หมายความว่าเราสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท)
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นไทยปรับลง 5 วันติดมากกว่า 70 จุดแล้ว ทำให้ระดับการประเมินมูลค่าน่าสนใจ โดยคิดเป็น PER 13.6x ปี 19F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 15.2x และเข้าใกล้ -0.5SD ที่ 13.3x ประกอบกับเครื่องชี้ทางเทคนิคเข้าเขต Oversold แล้ว ดังนั้นหากมีปัจจัยใหม่มากระตุ้นจะมีโอกาสดีดกลับได้ทุกเมื่อ แนวรับ 1618 (โลว์เมื่อวาน), 1585-1600 แนวต้าน 1638-40, 1650
แนะอยู่ในโหมด Wait&See เป็นกลยุทธ์หลัก แต่สำหรับนลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง หาก SET ลงต่ำกว่า 1600 ลงมา น่าเสี่ยงซื้อ ลุ้นเด้งขาย แต่หากปิดต่ำกว่า 1585 ควร Stop Loss / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะทยอยสะสม-ถือลงทุนข้ามปีรับ “Pre-election Rally” ประเด็นหุ้นน่าสนใจ หุ้น SET50 ที่ราคาลงเร็วใน ต.ค. และอยู่ในโซน Oversold แล้ว – IRPC, TU, SCC / SET100 – RS, SGP, BCP
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ ยังคงเน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดีเมื่อราคาหุ้นปรับลงตามดัชนีฯ และเลือกหุ้นที่มีประเด็นที่น่าสนใจ หุ้นเน้นธุรกิจในประเทศ (Domestic Play) รวมทั้งหุ้นปันผลสูง นักลงทุนระยะสั้นควรเล่นรอบสั้นๆ ไม่หวังกำไรมาก ควรตั้งเป้าผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม และทยอยขายทำกำไรเมื่อได้ตามเป้าหมาย
ระยะนี้คาดว่า SET จะซื้อขายอยู่ในกรอบเป็น 1590-1645 จุด แต่ SET ตามพื้นฐานระยะยาว 1 ปี ให้ไว้ที่ 1860 จุด ที่ P/E 17 เท่า ซึ่งเป็น Median+1 SD และ EPS ปี 61 เติบโตเฉลี่ย 10% ดังนั้นดัชนีฯปรับลง แนะนำให้ทยอยสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาวเมื่ออ่อนตัว ตามปัจจัยต่างประเทศที่กดดันหนัก
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน