WORK ไม่ฟื้น! ร่วงต่อ 4% นิวโลว์ในรอบเกือบ 4 ปี โบรกฯชี้กำไร Q3/61 หดตัวแรง!
WORK ไม่ฟื้น! ร่วงต่อ 4% นิวโลว์ในรอบเกือบ 4 ปี โบรกฯชี้กำไร Q3/61 หดตัวแรง แนะขายหั่นเป้าเหลือ28 บ. โดย ณ เวลา 15.21 น. อยู่ที่ระดับ 29.75 บาท ลบ 1.25 บาท หรือ 4.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 85.38 ล้านบา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ณ เวลา 15.21 น. อยู่ที่ระดับ 29.75 บาท ลบ 1.25 บาท หรือ 4.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 85.38 ล้านบาท ราคาหุ้นต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี โดยเทียบตั้งแต่หุ้นเคยลงไปทดสอบระดับ 29.46 บาท เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2557
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(26ต.ค.) ว่า WORK คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 63 ล้านบาท หดตัว -83% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -45%เทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลจาก 1) รายได้จากรายการโทรทัศน์ชะลอตัวอยู่ที่ 705 ล้านบาท (-31%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -5%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ส่งผลจากรายได้จากโฆษณาในช่วงเอเชี่ยนเกมส์อยู่ในระดับที่ไม่สูง คาด Average ad rate ที่คาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาส 2/61 และเรตติ้งที่ฟื้นตัวช้า โดยเรตติ้งเฉลี่ยของ 9M18 ที่ 1.099 (15+, 18 ชั่วโมง) จากรายการใหม่ใน ไตรมาส 3/61 อย่าง BNK 48 Variety และ Thailand’s Got Talent เรตติ้งต่ำกว่าบริษัทฯตั้งเป้าไว้ 2) รายได้จากคอนเสิร์ตที่คาดว่าจะอยู่ที่ 75 ล้านบาท ซึ่งมีการจัดคอนเสิร์ต Wanna – One World Tour ในเดือน ส.ค. และ The Rapper Concert ในเดือน ก.ย.
3) Gross profit margin ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 33.1% (ไตรมาส2/61 = 60.1%, 3Q17 = 42.3%) จากค่าลิขสิทธิ์กีฬา Asian Game ซึ่งจะบันทึกบางส่วนใน ไตรมาส3/61 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 65 ล้านบาท และบันทึกใน ไตรมาส4/61 ที่ 35 ล้านบาท
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2018- 2019 ลง 19.5 -20.7% อยู่ที่ 404 และ 517 ล้านบาท ตามลำดับ จาก 1)เม็ดเงินโฆษณาทีวีที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยหันไปบริโภคสื่อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น 2) รายได้จากรายการโทรทัศน์ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์เดิม ส่งผลจากเรตติ้งที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยในปี 2018-2019 ปรับลดรายได้จากรายการโทรทัศน์ลง 8.1 – 5.1% ตามลำดับ
มองว่าจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวของเรตติ้ง คาดเห็นเรตติ้งเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส1/62 โดยทาง WORK มีแผนที่จะซื้อลิขสิทธิ์รายการจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงเรตติ้ง 3) Gross profit margin ที่หดตัวอยู่ที่ 41.5% และ 41.9% จากต้นทุนการผลิตรายการทีวีที่สูงขึ้นจากการผลิตรายการใหม่ และค่าลิขสิทธิ์เอเชียนเกมส์ 4) SG & A to total sales อยู่ที่ 23.3% จากค่าโฆษณาและค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดสินค้า Let Me In Beauty
คงคำแนะนำ “ขาย” rollover ราคาเป้าหมายไปปี 2019 และปรับราคาเป้าหมายลงจาก 36.00 บาท เป็น 28.00 บาท อิง DCF (WACC 12.1%, TG 3.0%) โดยปรับ Gross profit margin ระยะยาวลง เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรระยะยาวต่ำลง แม้มองว่าราคาที่ปรับตัวลง 28% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนผลกระทบจากผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 3/61 ที่ชะลอตัว และต่ำกว่าตลาดคาดไปเพียงบางส่วน ในขณะที่คาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวของกำไรอย่างจริงจังเร็วสุดในปี 2019 ดังนั้นยังคงคำแนะนำ “ขาย” จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนของเรตติ้ง