สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 26 ต.ค. 2561  


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (26 ต.ค.) เนื่องจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างอัลฟาเบทและอเมซอนได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก และได้บดบังปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดด้วยเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,688.31 จุด ร่วงลง 296.24 จุด หรือ -1.19% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,167.21 จุด ลดลง 151.12 จุด หรือ -2.06% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,658.69 จุด ลดลง 46.88 จุด หรือ -1.73%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 3% ขณะที่ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.9% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 3.8%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (26 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างอเมซอน และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 352.34 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,200.62 จุด ลดลง 106.50 จุด หรือ -0.94% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,967.37 จุด ลดลง 64.92 จุด หรือ -1.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,939.56 จุด ลดลง 64.54 จุด หรือ -0.92%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวีนศุกร์ (26 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของสองบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอเมซอน และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,939.56 จุด ลดลง 64.54 จุด หรือ -0.92%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (26 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลที่ว่าการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 67.59 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงราว 2.4%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือเกือบ 1% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงราว 2.7%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (26 ต.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1235.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นราว 0.6%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 14.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 834.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.70 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.1% ปิดที่ 1085.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก แม้ในช่วงแรกนั้น ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ก็ตาม ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของตลาดหุ้นส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.83 เยน จากระดับ 112.58 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9969 ฟรังก์ จากระดับ 1.0004 ฟรังก์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3090 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3078 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1410 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1359 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2815 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7093 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7085 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button