สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 31 ต.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นเฟซบุ๊กที่ดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ แต่ภาพรวมตลอดเดือนต.ค.ยังคงซบเซา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,115.76 จุด พุ่งขึ้น 241.12 จุด หรือ +0.97% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,711.74 จุด เพิ่มขึ้น 29.11 จุด หรือ +1.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,305.90 จุด เพิ่มขึ้น 144.25 จุด หรือ +2.01%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.6% ปิดที่ 361.67 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,093.44 จุด เพิ่มขึ้น 114.92 จุด หรือ +2.31% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,447.51 จุด เพิ่มขึ้น 160.12 จุด หรือ +1.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,128.10 จุด เพิ่มขึ้น 92.25 จุด หรือ +1.31%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ รวมทั้งความหวังที่ว่า อังกฤษจะสามารถบรรลุข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรปได้ภายในเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,128.10 จุด เพิ่มขึ้น 92.25 จุด หรือ +1.31%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 65.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 75.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,215.00  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 14.282 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 843 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 13.50 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,068.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อดอลลาร์ด้วยเช่นกัน

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0082 ฟรังก์ จากระดับ 1.0052 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3161 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3130 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 112.92 เยน จากระดับ 112.96 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1326 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1342 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2778 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2701 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7077 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7102 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Back to top button