ORI ดีดบวกกว่า 4% ไม่หวั่นลูกหุ้นเข้าเทรดวันแรก 816 ล้านหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ณ เวลา 10.12 น. อยู่ที่ระดับ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 4.44% สูงสุดที่ระดับ 9.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ORI ปรับตัวขึ้นแรง แม้ว่าในวันนี้ลูกหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจากการจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวน 816,352,732 หุ้น มีกำหนดเข้าซื้อขายเป็นครั้งแรก

โดยจำนวนหุ้นเพิ่มทุนจากปันผลมีทั้งสิ้นจำนวน 816,352,732 หุ้น ซึ่งหลังจากเข้าเทรดแล้วจะส่งผลให้ ORI มีหุ้นสามัญเพิ่มเป็น 2,449,073,932 หุ้น จากเดิม 1,632,721,200 หุ้น ขณะที่ทุนจดทะเบียนใหม่จะเปลี่ยนเป็น 1,224,536,966 บาท จากเดิม 816,360,600

ขณะที่ แหล่งข่าวจากวงการเงิน เปิดเผยว่า ลูกหุ้นเพิ่มทุนจากการจ่ายปันผลของ ORI ที่เข้าเทรดในวันนี้จะมีแนวโน้มกดดันให้ราคาหุ้นในกระดานลดลง เพราะมีจำนวนหุ้นเพิ่มทุนมากถึง 816 ล้านหุ้น แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาหุ้นน่าจะลดลงในกรอบจำกัด เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น ORI ได้ปรับลงแรงสะท้อนผลไดลูชั่นจากการจ่ายหุ้นปันผลไปพอสมควรแล้ว

โดยเบื้องต้นแบ่งกลยุทธ์การลงทุนหุ้น ORI ออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ 1. กรณีคนยังไม่มีหุ้น ORI ในมือจะถือเป็นโอกาสดีเข้าสะสมหุ้น เนื่องจากจะได้หุ้น ORI ในต้นทุนไม่แพงและปัจจุบันซื้อขายด้วย P/E เพียงประมาณ 7 เท่า 2. กรณีผู้ที่ถือหุ้น ORI ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิได้ปันผล) ซึ่งจะได้รับหุ้นปันผลบริษัทมาด้วย สามารถเข้าเก็บหุ้นเพิ่มในช่วงที่ราคาหุ้นในกระดานลดลงเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนให้ต่ำลงมาได้เช่นกัน

3.กรณีผู้ที่มีหุ้น ORI และได้รับหุ้นปันผล แต่มีเงินลงทุนในกรอบจำกัดแล้ว ยังสามารถถือหุ้นเพื่อรับการเติบโตในอนาคตได้ เพราะในช่วงระยะสั้นจะมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2561 ที่มีโอกาสทำกำไรเติบโต และถือเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ราคากลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง

ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI เปิดเผยในช่วงที่ผ่านมาว่า กรณีที่บริษัทจ่ายหุ้นปันผลให้กับทางผู้ถือหุ้นถือเป็นแนวทางช่วยเพิ่มสภาพคล่องหุ้น (ฟรีโฟลต) ให้ดียิ่งขึ้น และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อขายหุ้น ORI ได้มากขึ้นกว่าเดิม

โดยในปัจจุบันมีนักลงทุนให้ความสนใจหุ้น ORI เป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริษัทมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน มีเป้าหมายสร้างการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงมั่นใจยอดขาย (Presale) ในปี 2561 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 24,000 ล้านบาท หลังจากในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 2561) มียอดขายรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “พาร์ค ออริจิ้น” แบรนด์คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ สามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าหมาย

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ORI ให้ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท/หุ้น อิง P/E 9.2 เท่า โดยประเมินงบไตรมาส 3/2561 จะมีกำไร 800 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 44% จากช่วงปีก่อน แต่จะลดลง 22% จากงวดไตรมาส 2/2561

สำหรับรายได้ยอดโอนงวดไตรมาส 3/2561 คาดไว้ที่ 3,600 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 116% จากปีก่อน แต่ลดลง 6% จากไตรมาส 2/2561 ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นโครงการเดิมที่โอนต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2561 ประกอบกับมีกำไรจาก Share premium One Origin 24 และ โครงการ Park ราชเทวี

นอกจากนี้ ยังประเมินงวดไตรมาส 4/2561 กำไรจะทำจุดสูงสุดของปี ซึ่งนอกจากการโอนโครงการ Park 24 เฟส 2 ซึ่งที่บริษัทได้ Fulcrum Global มาเหมาไปทำ Service Apartment Ascott มูลค่าราว 2 พันล้านบาทแล้ว ทางบริษัทยังมีโครงการ Notting Hill Jatujak Interchange ถึงแม้จะเป็นโครงการไม่ใหญ่มูลค่าราว 600 ล้านบาท แต่เป็นโครงการที่ขายหมดแล้ว คาดจะเห็นการโอนอย่างราบรื่นเช่นกัน โดยประเมินภาพรวมงบปี 2561 จะมีกำไรสุทธิรวม 3,590 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากงวดปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 2,021 ล้านบาท