สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 5 พ.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากหุ้นแอปเปิลร่วงลงเกือบ 3% หลังจากสื่อรายงานว่าบริษัทแอปเปิล อิงค์ เตรียมยุติแผนเพิ่มกำลังการผลิต iPhone XR นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐจะมีขึ้นในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,461.70 จุด เพิ่มขึ้น 190.87 จุด หรือ +0.76% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,738.31 จุด เพิ่มขึ้น 15.25 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,328.85 จุด ลดลง 28.14 จุด หรือ -0.38%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารพาณิชย์ในยุโรปพบว่า ธนาคารหลายแห่งของอิตาลีไม่ผ่านการทดสอบ
ดัชนี European Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 363.50 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,494.96 จุด ลดลง 24.03 จุด หรือ -0.21% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,101.39 จุด ลดลง 0.74 จุด หรือ -0.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,103.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.72 จุด หรือ +0.14%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) หลังจากหุ้นกลุ่มทรัพยากรได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันในระหว่างวัน จากรายงานของมาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,103.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.72 จุด หรือ +0.14%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) หลังจากสหรัฐประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไป โดยรัฐบาลสหรัฐได้เริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อวานนี้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือประมาณ 0.09% ปิดที่ 63.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 73.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐจะมีขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.00 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,232.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.9 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 14.647 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6.3 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 869.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 17.10 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1121.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อดอลลาร์ ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.22 เยน จากระดับ 113.27 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0039 ฟรังก์ จากระดับ 1.0043 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3108 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3112 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1417 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1392 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3048 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2964 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7216 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7192 ดอลลาร์สหรัฐ