สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 6 พ.ย. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่า ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จะช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการเมืองในสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงมติการประชุมในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,635.01 จุด พุ่งขึ้น 173.31 จุด หรือ +0.68% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,755.45 จุด เพิ่มขึ้น 17.14 จุด หรือ +0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,375.96 จุด เพิ่มขึ้น 47.11 จุด หรือ +0.64%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 362.55 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,484.34 จุด ลดลง 10.62 จุด หรือ -0.09% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,075.19 จุด ลดลง 26.20 จุด หรือ -0.51% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,040.68 จุด ลดลง 63.16 จุด, -0.89%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าได้ฉุดหุ้นบริษัทข้ามชาติร่วงลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากมีรายงานว่า EU พร้อมประนีประนอมประเด็นไอร์แลนด์ เพื่อหวังปลดล็อกข้อตกลง Brexit

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,040.68 จุด ลดลง 63.16 จุด หรือ -0.89%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากสหรัฐประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศ ซึ่งรวมถึงจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันอิหร่านต่อไป นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของรัสเซีย สหรัฐ และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 62.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 72.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.00 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,226.30  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14.5 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 14.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 871.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 26.30 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1095.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากสื่อรายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) พร้อมที่จะประนีประนอมประเด็นไอร์แลนด์ เพื่อหวังปลดล็อกข้อตกลงเกี่ยวกับการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3093 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3048 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1412 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1417 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7215 ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ  0.7216 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0032 ฟรังก์ จากระดับ 1.0039 ฟรังก์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.39 เยน จากระดับ 113.22 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3139 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3108 ดอลลาร์แคนาดา

 

Back to top button