MBKET รายได้หด กดกำไรไตรมาส 3/61 ลดลง 47.78% มาที่ 54.38 ลบ.
MBKET รายได้หด กดกำไรไตรมาส 3/61 ลดลง 47.78% มาที่ 54.38 ลบ. จากปีก่อนกำไร 104.14 ลบ. ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรลดลง 34.13% มาที่ 316.26 ลบ. จากปีก่อนกำไร 480.11 ลบ.
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีผลกำไรลดลง เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าลดลง 63.94 ล้านบาท จาก 1,479.92 ล้านบาท เป็น 1,415.98 ล้านบาท หรือลดลง 4.32% เนื่องจาก
1.1 รายได ้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 107.35 ล้านบาท จาก 1,377.31 ล้านบาท เป็น 1,269.96 ล้านบาท หรือลดลง 7.79%
1.2 รายได้ค่านายหน้าจากการซอื้ ขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 23.61 ล้านบาท จาก 102.61 ล้านบาท เป็น 126.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.01%
1.3 รายได้ค่านายหน้าอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการรายได้ค่านายหน้าจากการเสนอซื้อหลักทรัพย์จากประชาชนทั่วไปของลูกค้าเพิ่มขึ้น 19.80 ล้านบาท จากปีก่อนที่ไม่มีรายได้ดังกล่าว เป็น 19.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100%
อีกทั้ง รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 139.76 ล้านบาท จาก 192.59 ล้านบาท เป็น 52.82 ล้านบาท หรือลดลง 72.57% เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และจากที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 135.23 ล้านบาท และ 4.87 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่ค่าธรรมเนียมและบริการอื่นเพิ่มขึ้น 0.34 ล้านบาท
ส่วนรายได้อื่นลดลง 17.59 ล้านบาท จาก 758.20 ล้านบาท เป็น 740.60 ล้านบาท หรือลดลง 2.32% เนื่องมาจากกำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ ลดลง 54.12 ล้านบาท ในขณะที่ รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์และ รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 32.21 ล้านบาท และ 4.32 ล้านบาท ตามลำดับ
พร้อมทั้ง ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ ลดลง 16.91 ล้านบาท จาก 1,830.13 ล้านบาท เป็ น 1,813.22 ล้านบาท หรือลดลง 0.92% ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่ลดลง ได้แก่ ค่าใช้จ่ายอื่น ต้นทุนทางการเงิน ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย และ หนี้สูญและหนสี้ งสยัจะสญู ลดลง 55.03 ล้านบาท 10.20 ล้านบาท 6.96 ล้านบาท และ 1.89 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะ
ที่ ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน เพิ่มขึ้น 57.17 ล้านบาท
ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 40.54 ล้านบาท จาก 120.47 ล้านบาท เป็น 79.93 ล้านบาท หรือลดลง 33.65% เนื่องมาจากการลดลงของกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงิน ได ้
ดังนั้น จึงมีผลทำให้ผลการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2561 ลดลงจากผลการดำเนินงานในงวดเดียวกันของปีก่อน 34.13%