WPH ปักธงรายได้ปี 61 โตเข้าเป้า 10% พร้อมเปิดตัว “วัฒนแพทย์ อ่าวนาง” ปลายปีนี้
WPH ปักธงรายได้ปี 61 โตเข้าเป้า 10% พร้อมเปิดตัว "วัฒนแพทย์ อ่าวนาง" ปลายปีนี้
นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 61 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานของโรงพยาบาลไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคใต้ โดยเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตามแผนคาดว่าจะสามารถก่อสร้างเป็นโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย และจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 62 ซึ่งนอกจากเป็นการสนับสนุนการการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการสาธารณสุขแล้ว ยังเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศเพื่อมุ่งสร้างการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง ปัจจุบันส่วนของโครงสร้างนั้นได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% และอยู่ระหว่างการตกแต่งภายในและงานระบบสาธารณูปโภค ทั้งนี้บริษัทได้เชิญสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อเข้ามาตรวจมาตรฐานต่างๆ ภายในโรงพยาบาลแล้ว โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ภายในช่วงปลายไตรมาส 4/61 หรือต้นปี 62 เป็นต้นไป
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 536.99 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปีเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาในพื้นที่บริการของกลุ่มบริษัทจำนวนมาก และเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี ส่งผลทำให้มีผู้เข้าใช้บริการมากขึ้นด้วยตามสภาวการณ์ท่องเที่ยวแบบปลอดภัย เคลื่อนย้ายรวดเร็ว ถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันถ่วงที
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 3/61 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล จำนวน 154.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 127.59 ล้านบาท เนื่องมาจากมีปริมาณผู้เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น จากโรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบาดตามฤดูกาล เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก เป็นต้น
รวมถึงโรคไม่ติดต่อ เช่น หัวใจ สมอง เป็นต้น ส่งผลทำให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยในปรับเพิ่มขึ้น 31.5% และรายได้จากผู้ป่วยนอกปรับเพิ่มขึ้น 5.9% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 10.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.84 ล้านบาท หรือ 530% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 2.54 ล้านบาท
ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้ มีรายได้รวมเท่ากับ 466.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 402.61 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 41.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 14.65 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นไปตามงานที่บริษัทวางไว้ โดยเรามีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากโรงพยาบาลมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงของโรคประจำฤดูกาล อีกทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายเมืองรองของภาครัฐทำให้มีประชาชานเดินทางเข้ามาในพื้นที่บริการมากยิ่งขึ้น ประกอบกับแผนโปรโมชั่นการดูแลสุขภาพของโรงพยาบาลเป็นไปด้วยดี ส่งผลทำให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสัดส่วนต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ รวมถึงต้นทุนทางการเงินปรับลดลงอีกด้วย” นายเชน กล่าว