MTCลั่นผลงานไตรมาส4/61แตะระดับพันล้าน หลังไตรมาส3ฟันกำไร 965 ลบ.
MTC ลั่นกำไรไตรมาส 4/61 แตะ 1 พันล้านบาท หลังไตรมาส 3 กำไรกระฉูด 965 ลบ. เก็งยอดสินเชื่อใหม่ทั้งปีเกิน 8 หมื่นลบ.
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 โดยเฉพาะกำไรสุทธิจะเติบโตถึงระดับ 1 พันล้านบาท หลังไตรมาส 3/61 ทำกำไรสุทธิไปถึง 965 ล้านบาท
ขณะที่ในช่วงสุดท้ายของปีจะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างมากในช่วงเทศกาล ทำให้จะมีความต้องการสินเชื่อมากขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล และนาโนไฟแนนซ์ โดยมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวมทั้งปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้รายได้ ,กำไรสุทธิ และยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ รวมถึงลูกหนี้คงค้างจะเติบโต 40% จากปีก่อน ตามการขยายสาขาที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 3.3 พันสาขา จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ 3.2 พันสาขา ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายแผนการดำเนินงาน 3 ปี ตามที่บริษัทวางไว้ที่จะขยายสาขาปีละ 600 สาขา ขณะเดียวกันบริษัทจะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ไม่ให้เกิน 1.5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.27%
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ กำไรสุทธิ และยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ รวมถึงลูกหนี้คงค้างจะเติบโต 35% เป็นไปตามฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้าคาดจะมีสาขาทั้งสิ้นจำนวน 4.5 พันสาขา อีกทั้งยังมองว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีนี้ จากการเลือกตั้งที่จะส่งผลให้มีเงินสะพัดจำนวนมาก ความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลที่จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย
ด้านต้นทุนทางการเงิน บริษัทฯ มองว่าในปีหน้าจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากการที่ธนาคารกลางสหัรฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการออกหุ้นกู้ระยะ 3-4 ปี เพื่อล็อคต้นทุนทางการเงินเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.1-4.3%
นอกจากนี้ใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจจำนำทะเบียน ภายใต้การกำกับการดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะออกเกณฑ์มาในเดือนพ.ย.นี้ บริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสสำหรับ MTC ซึ่งในอนาคตสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อพรีโลนของบริษัทจะเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 10%
“เรายังคงแผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีนี้ ไว้ตามเดิม โดยยังคงมุ่งเน้นการขยายสาขาปีละ 600 สาขา เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ส่วนหลังจาก 3 ปีไปแล้ว เราก็จะมีการพิจารณาขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศ CLMV โดยจะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นทำธุรกิจร่วมกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ศึกษา เป็นเพียงแนวทางในอนาคตในการขยายการเติบโตเท่านั้น” นายชูชาติ กล่าว
โดยในเดือน ธ.ค.นี้ บริษัทจะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง โดยคาดหวังเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติ เป็น 11% จากปัจจุบันอยู่ที่ 9%