NDR เด้งรับอุปสงค์จากมาเลเซีย กูรูมองกำไร Q2/58 สดใส ให้เป้า 5.70 บ.

NDR พุ่งกว่า 5% ณ เวลา 11.15 น. ราคาอยู่ที่ 4.14 บ. บวก 0.20 บ. หรือ 5.08% มูลค่าซื้อขาย 42.54 ลบ. โดยบล.ฟิลลิป แนะนำซื้อ ให้เป้า 5.70 บ. หลังมอง Q2/58 ยอดขายปรับตัวดีขึ้นจากอุปสงค์ในมาเลเซีย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ณ เวลา 11.15น. ราคาอยู่ที่ 4.14 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 5.08% สูงสุดที่ 4.18 บาท ต่ำสุดที่ 4 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 42.54 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.16%

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 มิ.ย.) ว่าในปี 58 ผู้บริหารคงเป้าเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ราว 870-900 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 1/58 ที่ผ่านมาจะมีรายได้เพียง 174.94 ล้านบาท (หรือคิดเป็นเพียง 19-20% ของเป้าหมายทั้งปี) แต่คาดผลดำเนินงานในช่วงที่เหลือจะได้ส่วนช่วยผลักดันจากการฟื้นตัวของอุปสงค์จากประเทศมาเลเซียหลังจากในไตรมาส 1/58 ได้รับผลกระทบจากการปรับภาษี

อีกทั้งได้รับงานใหม่จากประเทศอินเดีย โดยทาง NDR ทำยางนอกให้แก่ค่าย CEAT ปริมาณราว 50,000 เส้นต่อเดือนที่จะทยอยส่งมอบตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 58 โดยรวมคาดจะผลักดันให้สัดส่วนงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 48%ของยอดขายในปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้นมาเป็น 60%

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/58 ยอดขายได้ส่วนช่วยจากการการปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์จากประเทศมาเลเซีย หลังไตรมาส 1/58 ได้รับผลกระทบจากการปรับภาษี (จากเดิม Sales tax มาเป็น VAT) ส่งให้ลูกค้าลดปริมาณสินค้าคงคลังลงและชะลอการรับสินค้า

รวมทั้งการกลับมารับรู้งานในประเทศมาเลเซียราว 9 ล้านบาทที่ไม่ได้บันทึกในไตรมาส 1/58 โดยรวมส่งให้การใช้กำลังการผลิตของสินค้าหลักอย่าง ยางนอก (กว่า 55%ของทั้งหมด) ปรับขึ้นจาก 70% มาเป็น 80% ทางฝ่ายคาดยอดขายไตรมาส 2/58 จะปรับขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน (เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน) มาที่ 209.68 ล้านบาท ส่งให้มีกำไรสุทธิที่ 12.32 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 167% จากไตรมาสก่อน (และสูงขึ้น 2% จากปีก่อน)

ทั้งนี้ แม้ว่าอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ในประเทศจะมีการเติบโตที่จำกัด อย่างไรก็ตามสำหรับ NDR มีการกระจายรายได้ไปยังต่างประเทศช่วยหนุนการเติบโตของผลประกอบการโดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 5.70 บาท

Back to top button