UBIS กระฉูดเกือบ 15% นิวไฮรอบกว่า 7 เดือน รับกำไรไตรมาส 3/61 โตทะลัก 72% แตะ 32.74 ลบ.
UBIS กระฉูดเกือบ 15% นิวไฮรอบกว่า 7 เดือน รับกำไรไตรมาส 3/61 โตทะลัก 72% แตะ 32.74 ลบ. โดย ณ เวลา 15.45 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 0.67 บาท เพิ่มขึ้น 0.67 บาท หรือ 14.63% สูงสุดที่ระดับ 5.65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.86 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11.94 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UBIS ณ เวลา 15.45 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 0.67 บาท เพิ่มขึ้น 0.67 บาท หรือ 14.63% สูงสุดที่ระดับ 5.65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.86 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11.94 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 5.30 บาท เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61
โดยราคาหุ้น UBIS ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.61 ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานมีผลกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากไตรมาสที่ 3/61 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้เท่ากับ 249.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3/60 เป็นจํานวนเงิน 63.5 ล้านบาท คิดเป็น 34.2% (โดยแบ่งเป็นขายในประเทศเพิ่มขึ้น 21% และขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น 44%)
อีกทั้ง ไตรมาสที่ 3/61 บริษัทและบริษัทย่อยมีกําไรขั้นต้น 89.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3/60 เป็นจํานวน 26.8 ล้านบาท คิดเป็น 43.1% โดยมีอัตรากําไรขั้นต้น 35.7% (ไตรมาสที่ 3/60 อัตรากําไรขั้นต้น 33.5%) กําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีการจัดการความผันผวนของราคาวัตถุดิบได้ดี อีกทั้งในไตรมาสนี้มีการผลิตและขายมากขึ้นทําให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง
ขณะที่ ไตรมาสที่ 3/61 บริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงิน 1.7 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/60 เป็นจํานวน 3.5 ล้านบาท คิดเป็น 67.0 % (ไตรมาสที่ 3/60 มีต้นทุนทางการเงิน 5.2 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินรวม 323 ล้านบาท ลดลงจาก 31 ธันวาคม 2560 เป็นจํานวนเงิน 119 ล้านบาท โดยมีการเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ระยะสั้นลดลง 146.3 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น 30.3 ล้านบาท ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวสถาบันการเงินครบใน 1 ปี ลดลง 3.1 ล้านบาท ภาษีเงินได้ค้างจ่ายลดลง 1.4 ล้านบาท หนี้สินอื่นลดลง 1.0 ล้านบาท และภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาท